the Fall from anotherside, Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก...

Friday, May 25, 2007

ในเวลาต่อมา กับ Kodak 200



ถ่ายมาอีกจนได้ ฮือๆๆตระเวนไปแถวๆ ตลาดเทเวศน์ คลองผดุงกรุงเกษม ตลาดนางเลิ้ง และ ฯลฯ

Thursday, May 24, 2007

ในเวลาต่อมากับ Fuji 100

อาห้อย อาห้อย กา! กา!

Tuesday, May 22, 2007

ครั้งแรกกับกล้องวาสฯ

เมื่อต้นเดือนเตร่ข้ามเรือไปฝั่งคลองสานมา แวะวัตสันซื้อกล้องของแถมจากผลิตภัณฑ์กันแดดของวาสลีนมา กล้องป๊อกแป๊กมาก มีกล่องกันน้ำด้วยที่ท่าทางจะใช้กันน้ำออก อุปกรณ์มือล้วนๆ ไม่มีการใส่ถ่าน เพราะฉะนั้นถ่ายได้แต่เวลากลางวันเท่านั้น ฟ้ามืด ฝนมาก็พล่ามัวทันที แต่ก็สนุกดี
ถ่ายออกมาแล้วเสียไปตั้งหลายรูป

รู้สึกจะใช้ฟิล์มโกดัก 100 นะม้วนนี้

Monday, May 21, 2007

ปริศนาหมานุษย์

เมื่อวานไปเดินแถวท่าสี่พระยา เจอร้านหนังสือเก่าๆ (ที่มี Mars เล่มใหม่ปกเป้ย ปานวาดขาย - เอ๊ะ มันเก่าจริงไหมเนี่ย?) แว๊บแรกที่ตาต่อตามาประสานกันก็หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาดูเลย แล้วตัดสินใจซื้อในทันทีด้วยสนนราคา 10 บาทเท่านั้น การ์ตูนเรื่อง "ปริศนาหมานุษย์" นี้ เคยอ่านตั้งแต่สมัยเรียนหนังสืออยู่ที่เชียงใหม่ ในร้านหนังสือเช่าของซอยวัดอุโมงค์ที่เคยไปทำงาน การ์ตูนเก่าเรื่องนี้น่าสนใจมากเมื่อ อาจารย์ NOBURO ROKUTA นำประเด็นความคิด (ที่โหดร้ายต่อผู้รับการทดลองอย่าง สุนัข) ของ อีวาน เพโทรวิช พาบลอฟ มานำเสนอ

อีวาน เพโทรวิช พาบลอฟ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาแพทย์ศาสตร์ปี 1904 ได้ทำการทดลองฉายภาพวงกลมให้สุนัขดู จากนั้นจึงให้อาหาร เมื่อทำแบบนี้หลายๆ ครั้ง ต่อมาเพียงแต่เห็นภาพวงกลมบนจอ สุนัขก็น้ำลายไหล

หลังจากฝึกให้สุนขัคุ้นเคยกับเงื่อนไขนี้แล้ว พาบลอฟก็ให้สุนัขดูรูปวงรีโดยไม่ให้อาหาร เมื่อฝึกให้สุนัขคุ้นเคยกับเงื่อนไขทั้งสองแล้ว คราวนี้เขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนรูปวงรีให้ใกล้เคียงวงกลมขึ้นทีละน้อย สุนัขพยายามอย่างยิ่งที่จะแยกให้ออก แต่ในไม่ช้า เมื่อยากจะบอกความแตกต่างระหว่างวงกลมกับวงรีได้ (ระหว่างเงื่อนไขการได้หรือไม่ได้รับอาหาร)

เมื่อตกอยู่ในสภาพบีบคั้นที่ไร้ทางออกนี้ สุนัขก็จะเริ่มสับสน อาละวาด จนสุดท้ายหมดสติ และเข้าสู่อาการโคม่า สุนัขได้ใช้อาการทางจิต เป็นทางหลบหนีจากสภาพความขัดแย้ง

เรื่องเริ่มต้นจากนักเขียนการ์ตูนคนหนึ่งตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แล้วพบว่าตัวเองกลายร่างเป็นหมา แต่คนอื่นรอบตัวไม่เห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้นกับตัวของเขา (ในตอนแรก) นอกจากนี้ในเรื่องยังยกตัวอย่างสภาพทางจิตที่ไร้ทางออกอีกหลายกรณี รวมถึงการจัดการคลี่คลายที่ง่ายงามขึ้น และตั้งคำถามกับความรับผิดชอบกับความเกี่ยวข้องซึ่งกัน

ประโยคคลาสสิกประโยคหนึ่งในการถ่ายความเกี่ยวข้อง (ในความคิดของผม) คือ "บนดาวอังคารมีชาวดาวอังคาร และก็มีสังคมเหมือนคนบนโลกเรา มีมนุษย์โลกคนหนึ่งขึ้นยานอวกาศไปยังสังคมดาวอังคาร! ฆ่าชาวดาวอังคารไปคนหนึ่ง!!! ถ้าเป็นแบบนั้นทุกคนจะพูดได้หรอืเปล่าว่าไม่เกี่ยวกับตัวเอง!?"

นอกจากนี้ เมื่อตัวละครยอมละทิ้งตัวตนของตนแล้วสวมบทบาทที่ต้องกลายเป็นสุนัขแล้ว คำถามที่ตามมาคือ บทบาทต่างๆ จะเข้ายึดครองความเป็นเราไป เมื่อเมืองเป็นตัวสร้างบทบาทหน้าที่ให้ เงื่อไนขที่กระทำทุกอย่างตามบทบาทได้ดีกว่าจึงเข้ายึดครองตัวตนไป ยกเว้นแต่สายตาของคนรอบข้างจะกลับมามองเห็นตัวตนของเราอีกครั้ง

ได้กลับมาอ่านการ์ตูนเรื่องนี้อีกครั้งแล้ว มีเรื่องให้คิดอีกเยอะเชียว

ป.ล.

เพิ่งสังเกตว่าอาจารย์ผู้เขียนเรื่องนี้เป็นคนเดียวกับที่เขียนการ์ตูนเรื่อง บารอน การ์ตูนที่ยังอ่านไม่จบเพราะเคยลงพิมพ์ใน weekly ยุคไร้ลิขสิทธิ์แล้วก็ห่างหายไป อยากอ่าน บารอนอีกจริงๆ เลย

Friday, May 18, 2007

๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๐

ยามเมื่อฉันหวนคิดถึงพ่อ
พ่อที่ทำนาเลี้ยงผู้คน พ่อไม่เคยบ่นเกลียดชังความจน
ไม่ตั้งตัวทวงบุญ ทวงคุณใครๆ

********
ก่อนนอนครั้งยังวัยอ่อน
เคียงหมอนพ่อนอนกล่อมขวัญ
ได้ฟังนิทาน หัวใจเริงสำราญ
อยู่ทุกยามเรื่อยมา

********

หากพ่อเอื้อมมือถึงสัมผัสดวงดาว
จะเด็ดเอามาทอดให้ลูกๆ กิน
กรวดที่เห็นจะหุงเป็นข้าวให้สิ้น ปั้นก้อนดิน
แบ่งกินแทนขนมนมเนย

หากพ่อมีคาถาเสกเป่าไป
ก่อผืนทราย ก่อให้เป็นบ้านเจ้าอยู่
ตัดแผ่นฟ้าสวมแทนผ้าให้เจ้าดู
ใบไม้พรู คือเพลงกล่อมเจ้านิทรา

แต่โชคร้ายเจ้าได้พ่อที่ไร้ค่า
สร้างเจ้ามากำพร้าและขาดไร้แม่
ก่อความทุกข์เกิดท่ามกลางความผันแปร
ความจนท้สิ่งที่แน่แท้เป็นครู

********

ดึกแล้วหนา หลับเถิดหนอพ่อจะร้องเพลงกล่อม
กล่อมเบาเจ้าตัวน้อย ค่อยๆ นอนฝันดี
อิ่มนมแล้ว ทำตาพริ้มอย่างนี้
นอนเถอหนาเจ้าตัวดี จะให้พ่อร้องทั้งคืนหรีอไร

********

หลายเพลงเกี่ยวกับพ่อที่นึกเนื้อร้องไม่ออกแต่พอจำได้ว่ามีมากกว่านี้
เพราะสมัยเรียนอยู่ม.ปลายเคยอัดเพลงที่เกี่ยวกับพ่อลงไว้รวมกันให้พ่อ
แต่เพลงที่พ่อร้องให้ฟังทุกวันกลับไม่ใช่เพลงเนื้อหาแบบนี้เลย

เมื่อสมัยเด็กๆ เพลงที่จะได้ยินทุกเช้าจากเสียงของพ่อ คือ
"ตื่นเถิดชาวไทย อย่ามัวหลับไหล ลุ่มหลง ชาติจะเรืองมั่งคง ก็เพราะเราทั้งหลาย..."
(ถ้าเนื้อผิดพลาดขออภัยไว้ด้วย พิมพ์จากความทรงจำล้วนๆ)

พ่อร้องไปพร้อมกับเอาหนวดแข็งๆ ที่เพิ่งขึ้น มาแกล้งให้จั๊กกะจี้แล้วลุกจากที่นอน

เมื่อเช้า ผมลุกจากที่นอนเพราะเสียงจากนาฬิกาปลุกมือถือ
ตั้งใจโทรหาพ่อ พ่อแปลกใจไฉนจึงตื่นเช้า ทั้งที่จริงก็ตื่นอย่างนี้ทุกวัน...
สุขสันต์วันเกิดครับพ่อ - -
ถามพ่อว่าจะไปตักบาตรหรือเปล่า พ่อว่าคงไม่ได้ไปเพราะจะต้องไปหาหมอ
พ่อว่าเป็นความดันอีกแล้ว ช่วงก่อนพ่อเป็นโรคกระเพาะ และติดเชื้อที่นิ้วเลยไปหาหมอ
ปรากฏยว่าหมอตรวจแล้วให้ยาลดความดันโลหิตมาประกอบด้วย
วันนี้เลยต้องไปพบหมออีกว่าความดันดีขึ้นหรือยัง?
พร้อมกันนั้นข่าวของพ่อส่ง (บุญส่ง) พ่อของเพื่อนบ้านสมัยเด็กๆ
ที่โตมาด้วยกันทำให้ผมติดเรียกเขาว่า พ่อส่ง ไปด้วย
พ่อส่งตายแล้ว เผาไปเมื่อวาน...
ผมถามพ่อว่า พ่อส่งเป็นโรคอะไรตาย โรคชราเหรอพ่อ?
พ่อก็บอกว่าความดันนี่แหละ อาจจะเส้นเลือดตีบ ความดันเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ทัน
ตายอยู่คนเดียวในบ้าน เพราะลูกออกมาซื้อเห็ดเผาะไปให้พ่อ
ได้ยินแล้วก็เศร้า นึกถึงไอ้โป้ง ไอ้ปอง (ลูกของพ่อส่ง)นึกถึงบ้านแสนสนุก
ที่พ่อส่งเคยทำให้เล่น นึกถึงยางเอน นึกถึงน้ำบางคลองที่ไปเล่นไปเที่ยวด้วย
กระทั่งเล่นน้ำของกำแพงเพชรต่างจังหวัดแรกๆ ของวัยเด็ก

ในวัยที่เติบโตขึ้น
ข่าวคราวการเกิดใหม่ของหลานๆ ของน้องๆ
มีให้ได้ยินมากขึ้น ข่าวเพื่อนแต่งงาน ข่าวเพื่อนฉลองมีเยอะขึ้น
ขณะที่ข่าวคราวการจากไปของญาติหลายคนมาถึงเมื่องานผ่านพ้น
อีกไม่นานข่าวงานการจากไปก็คงเดินทางมาถึงมากขึ้น
เรื่องราวแบบนี้เกิดกับใครมาไม่รู้ต่อกี่รุ่นแล้ว...

อย่างน้อยก็ยังยินดีที่วันนี้ได้โทรไปแล้วบอกอะไรที่อยากบอกกับพ่อ
เมื่อกลับบ้านก็กอดพ่อ กอดแม่ได้แน่นขึ้นจากวันที่ยังเรียนและอยู่ในหลังคาเดียวกัน
ผมบอกให้พ่อไปหาหมอเถอะแล้วค่อยแวะมาทำบุญที่โบสถ์หลวงพ่อเป๋าก็ได้
พ่อว่าก็คงอย่างนั้น คุยกันไม่นานนักก่อนจะวางสายไป
ได้ยินเสียงแม่ดังมาตามสายด้วยว่า
ถามมันว่าลงทะเบียนหรือยัง แต่พ่อก็วางสายไปแล้ว

กลับบ้านเมื่อครั้งล่าสุด
พ่อบอกว่า รู้ตัวเลยว่าแก่ขึ้น เพราะบางทีเดินๆ อยู่ก็เหมือนจะสะดุด
เหมือนร่างกายมันจะไป แต่ขาไม่ยอมก้าว
(จิตใจไม่แก่ชราหรอก แต่สังขารมันผุผังไป...)

สุขสันต์วันเกิดปีที่ ๖๕ ครับ พ่อ

Tuesday, May 15, 2007

FREE HUGS

All the same!!!

Wednesday, May 09, 2007

ของชอบของครอบครัว




ป.ล.

ที่จริงตรูเองคนเดียวนี่หว่า ^^
อ้าวแล้วมันไม่ขึ้นที่หน้าจอนี้ด้วยนะ
ต้องกด view all image อีกต่างหาก โธ่...ถัง

อ่อ ต้องขอบคุณที่มาของภาพต่างๆ จาก กาโมแมน เวบการ์ตูนสมัยเด็ก ด้วยครับ ^^ โดยเฉพาะเพลงขอบคุณพี่ BOON จากเวบเดียวกันด้วยครับ



Tuesday, May 08, 2007

อัพ ไร้สาระ(ผีกาก้า)

ไม่ได้รังเกียจแมนยูฯ
ไม่ได้เชียร์ใครเป็นพิเศษ
แต่ชอบ ตลกดี
คนไทยเนี่ยมันช่างเก่งในเรื่องแบบนี้จริงๆ
เท่าทันสถานการณ์ยิ่ง

ตลกดี




ป.ล.

เนื้อเพลง ผีกาก้า (สังกัด มาเฟียเรคคอร์ด)

ป๋าแพนด้า ป๋าแพนด้า ป๋าแพนด้า ป๋าๆแพนด้า

ป๋าแพนด้า เขาว่าเทพนัก ผมนี้ชักชักอยากจะเห็น
เขาว่าทีมป๋าเล่นเทพจริง โวจะยิงเหมือนนัดโรม่า
บอกไอ้หมูไอ้โด้ไอ้กิ๊กส์ จะยิงกระจายเหมือนนัดผ่านมา
สงสัยป๋าคงลืมไปว่า เขามีกาก้าอยู่อีกทั้งคน
( คิดว่านำอยู่ 3-2 แล้วจะเข้ารอบเนอะ )

หนูกาก้าเขามีเมียสวย แถมหล่อซะด้วยไม่เคยอวดตน
เขามาจากละตินเมกา ลีลาท่วงท่าเขาเทพเกินคน
กาก้าเขาว่าขนม กาก้าเขาว่าขนม จะยิงถล่มให้ผีกระจุย
( เทพจริงๆ เลยกาก้า อย่างเทพ )

ซานซิโร่เขาว่าอาถรรพ์ ผีแดงมันไม่เคยเก็บชัย
ออกไปเยือนมิลานคราวใด กินแต่ไข่ซะจนพุงกาง
ไปแช่งผีกันดีไหม ถ้าจะไปก็รีบมา
เหมาเครื่องบินขี่ขึ้นฟ้า มาเราพาไปดูยำผี
( ไปเอเธนส์ด้วยกันนะ มิลาน นะ )

แฟนทีมไหน ก็แช่งผี มันปากดี ต้องอัดให้ยับ
แฟนโรม่าพากันมามาก เพราะเขาอยาก อยากจะยำผี
เดอะค๊อปถาม ว่าสงสัย ถามว่าใครมายิงผี
0 ต่อ 3 เลขสวยดี คนยิงผีนี้เก่งจังเลย
ผีกาก้า ผีกาก้า ผีกาก้า ผีๆกาก้า
( เก่งเนาะ ยิงทีมเทพซะกระจาย สวยๆทุกเม็ดเลย )

แชมเปี้ยนลีกเขาว่าทำยาก ทีมกากๆเขาให้หลบไป
ทีมอ่อนๆอย่าคิดชิงชัย เขามอบให้ทีมเทพเข้าชิง
ไปเอเธนส์กันดีไหม ถ้าจะไปก็รีบมา
เหมาเครื่องบินขี่ขึ้นฟ้า ทำไมหว่าไม่มีเด็กผี
( มันไปตกรถแถวไหนน้อ สงสัยจังเลย)

แฟนทีมไหน ก็แช่งผี มันปากดี ต้องอัดให้ยับ
แฟนโรม่าพากันมามาก เพราะเขาอยาก อยากจะยำผี
เดอะค๊อปถาม ว่าสงสัย ถามว่าใครมายิงผี
จำชื่อเขาไว้ให้ดี คนยิงผีนี้เก่งจังเลย
ผีกาก้า ผีกาก้า ผีกาก้า ผีๆกาก้า
( กาก้าซัด 3 เม็ดเลย หรอยมั้ย หรอยมั้ย )


เอาเพลงออกล่ะนะ ฟังเพลงการ์ตูนกันดีกว่า^^