the Fall from anotherside, Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก...

Saturday, April 19, 2008

ร้อนเนอะ

หน้าร้อนครับ...
อาบน้ำวันสองสามรอบ
แป้งเย็น
เป็นผลิตภัณฑ์ชั้นยอดในห้วงเวลานี้ครับ

ขอบคุณ
แป้งเย็น



ป.ล.

ร้อนจนเพ้อ (- -"

Thursday, April 10, 2008

บางทีก็มองเห็นลมที่พัด

ผมเรียนปรัชญาเอ็กซิสเต็ลเชียลิสต์สมัยอยู่ปีสาม
จากปากคำของพี่คนหนึ่งที่เดินมาบอกว่า
อย่าลืมไปเรียนวิชานี้นะ แล้วพี่คนนั้นก็หายไปจากชีวิต
เรื่องราวประหลาด
แต่ก็เกิดขึ้นเช่นนั้น

ปรัชญากล่าวถึงการเลือกของมนุษย์
การกระทำและความรับผิดชอบต่อการกระทำนั้น
ความหมายของการกระทำ
ที่ทำให้คุณค่าดำรงอยู่
ปรัชญานี้มีผลต่อการเลือกดำเนินชีวิต
แล้วการให้ความหมายต่อการกระทำหลากเรื่องราวในชีวิต

ผมรู้จักกับชาร์ตส์และกามูส์ก่อนเข้าเรียน
ผ่านงานเขียนนวนิยายและเรื่องสั้นของทั้งสองคน
ผมชอบกามูส์ งานเขียนเขาทำให้เกิดคำถามถกเถียงในใจตนเอง

ขณะที่ปรัชญานี้ว่าด้วยการเลือก
เสมือนว่ามนุษย์เป็นสถานะเป็นผู้กระทำ
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปมาจากการที่มนุษย์เป็นเสรีภาพ
มิใช่การมี เพราะเมื่อมีย่อมไม่มี
หากแต่มนุษย์เป็นเสรีภาพซึ่งมาพร้อมกับความรับผิดชอบ

แต่จังหวะชีวิตของผม
กลับเต็มไปด้วยสายลมที่มองไม่เห็น
ที่พัดพาความเยือกเย็นและปีติมาในบางโมงยาม
เช่นเดียวกับการชักพาของพี่ผู้ผ่านทาง

บางครั้งขณะที่โลกหมุนเร็วคว้าง
หาที่ยึดเหนี่ยวยากเย็น มึนงงกับสภาวะนิรนาม
ผมเลือกที่จะให้ "บางสิ่ง" นำพา

บ่อยครั้งที่ผมยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์
แล้วบอกตัวเองว่า รถคันไหนมาก็ขึ้นคันนั้น
ไม่ใช่ทุกครั้งที่ทำได้จริง
แต่หลายครั้งที่เป็นเช่นนั้น
มันเหมือนว่า ประตูบางบานเปิดสู่ดินแดนที่นึกไม่ถึง
จังหวะชีวิตปรับชัดแล้วนิ่งขึ้น

บางที "บางสิ่ง" นั้นเป็นสายลม
จากทิศทางที่ถูกเพิกเฉย แล้วเมื่อหันไป
เงาไม้ทอดตัวลงบนพื้น หรืออะไรก็ตาม
ที่ทำให้ผมถามตัวเองว่า
ได้ละเลยกับสิ่งเหล่านั้นไปนานเท่าไหร่แล้ว
ชั่ววินาทีนั้นจึงแจ่มชัดและเบิกบาน

ไม่นานนี้
ขณะที่หนทางตีบตันมากมาย
ปรากฏขึ้นตรงหน้า ผมโดดขึ้นรถเมล์คันแรกที่ผ่านมา
เพื่อไปในทางเลือกสองสามทางเลือกที่วางไว้
เดินอยู่แถวท่าช้างแล้วหยุดอยู่ที่
หน้าร้านแบกะดินร้านหนึ่ง
หยิบหนังสือบางเล่มติดมือกลับมา
หลังจากที่เดินเลยไปแล้วกลับมาอีกหน
ปรากฏว่า เหมือนสายลมพัดมา

ผมนั่งอยู่บนรถเมล์
แล้วกล่าวขอบคุณ "บางสิ่ง" ที่ทำให้หยิบหนังสือเล่มหนึ่ง
มันช่วยทางตีบตันหนึ่งของเวลานั้นหายไป
ข้อมูลในหนังสือสามารถเดินในงานได้

ผมเขียนเรื่องนี้
เพราะ "บางสิ่ง" นั้น ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรดี
บางทีอาจเป็นพระเจ้า หรือพลังงานบางอย่าง
หรือสายลมที่พัดผ่าน หรืออะไรก็ตาม
กล่าวทักทายและยิ้มให้

ผมยังเชื่อมั่นในมนุษย์
ต่อการกระทำและการเลือก
ไม่ว่าคำตอบที่แน่ชัดต่อสายลมที่มองเห็นนั้นจะเรียกว่าอะไร
ก็ต้องขอบคุณในโมงยามเช่นนั้นจริงๆ

จำประโยคขึ้นต้นและลงท้าย
เรื่องฟอร์เรสท์ กัมพ์ ได้ไหมครับ?
ผมจำไม่ได้ชัดเจนหรอก...
แต่ในทำนองว่า
เราควรปล่อยชีวิตให้เป็นไป
หรือเลือกที่จะทำมันเอง
ไม่มีคำตอบหรอกครับ

ไม่ว่าขนนกจะตกลงบนเท้าของเราหรือไม่ก็ตาม


....

ไม่ได้เขียนนาน
เขียนไม่รู้เรื่องตามเคย (- -"