the Fall from anotherside, Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก...

Friday, September 28, 2007

เมื่อคืนฝนตก (อีกแล้ว)

หลังจากฝนห่างฟ้าไปช่วงหนึ่ง
ผมเข้านอนเมื่อเริ่มเข้าวันใหม่
ตื่นนอนมาพบกับสายฝนนอกหน้าต่างห้อง
อากาศเย็นยะเยือกของรุ่งเช้า...
ข่าวก่อนนอนยังเป็นชีวิตจริงของผู้คน

ผู้เสียชีวิตไปแล้วจากข่าวสาร
สิบกว่าคน นับรวมทั้งพระสงฆ์และประชาชน
ที่ออกเดินมาบนท้องถนน
ความตายรอบเจดีย์
สถานที่ทางศาสนา

ตื่นมาพบกับข่าวเช้า รัฐบาลพม่ายอมรับว่า
มีการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามการชุมนุม
(แน่ล่ะ ภาพข่าวปรากฏออกมามากกว่าปี1988 นี่หน่า)
นักข่าวชาวญี่ปุ่นเป็นชาวต่างชาติคนแรกในกรณีนี้
รัฐบาลพม่าอ้างว่า ได้ประกาศให้เวลาในการสลายการชุมนุม
สิบนาทีก่อนที่จะยิงกระสุนจริงในการสลายการชุมนุม
ใครจะรู้ว่า มันคือการยิงขึ้นฟ้าหรือยิงเข้าใส่ฝูงชน
ก็ในเมื่อมีคนล้มตายด้วยคมกระสุนแล้ว

ข่าวจากฝ่ายผู้ชุมนุมกล่าวว่า ทหารจะตรงเข้าค้นตัวทุกคน
ว่ามีอุปกรณ์ในการบันทึกภาพใดๆ หรือไม่ ทั้งโทรศัพท์และกล้องถ่ายภาพ
หากพบว่าใครมีสิ่งเหล่านี้ จะได้รับการทุบตีอย่างหนัก

เสียงบรรยายในจอเหลี่ยมยังบรรยายไปเรื่อยๆ
ภาพนิ่งหลายภาพค่อยๆ เลื่อนเข้าสู่คลองจักษุ รองเท้าแตะสีเหลืองกับกองเลือด
พระสงฆ์กับกองเพลิง เปลวไฟและผู้คน ช่างภาพที่ล้มลงใกล้กับทหารรายหนึ่ง

การเมืองช่างซับซ้อน
การคาดหวังต่อการตัดสนใจของรัฐบาลบ้านเรานั้นคงยากเย็น
แต่ อ. โคทม อารียา ได้กลาวว่า
บ้านเพื่อนข้างบ้านไฟไหม้ เราจะบอกว่าไม่มีผลต่อบ้านเรานั้นเเป็นไปไม่ได้หรอก

ฝนยังคงโปรยปรายในเดือนกันยายน...

ป.ล.

"...พุทธศาสนาที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่โบสถ์ ไม่ได้อยู่ที่จีวร แต่อยู่ในใจ
เพราะฉะนั้นตราบใดที่มีสันติภาพ
เราก็แน่ใจได้ว่าวันหนึ่งพุทธศาสนาจะงอกงามในใจคน
สันติภาพที่เกิดขึ้นอาจจะหมายถึงการกดขี่บีฑาชาวพุทธ
และกิจกรรมทางพุทธศาสนา
แต่มันไม่สามารถจะทำลายวัดหรือพุทธศาสนาในใจได้..."

ท่านติช นัท ฮันห์
อ้างจาก นิตยสาร way ฉบับที่ 10 หน้า 35

Wednesday, September 19, 2007

แคะขี้มูก

คัน คันในจมูกแล้ว
ชอบแคะขี้มูกกันบ้างไหม?

ตื่นเช้ามาในเมืองหลวง
ค่ำคืนที่เงียบสงบเพาะฝุ่นละอองขึ้นภายในโพรงนั้น
ตื่นมาคันยุบยิบ...

บางครั้งสามัญสำนึกสุภาพยังอยู่
ก็ทำเพียงแต่ถูนิ้วชี้ไปกับจมูก
ให้เกิดเสียงฟื้ด ฟัด พอกล้อมแกล้มไปได้

แต่บางครั้งมันไม่เพียงพอนี่สิ
นิ้วต่างๆ ทยอยกันยัดทะนาน
เข้าสู่ปลายอุโมงค์แคบแคบสองทางนั้น

ควานหาแหล่งกำเนิดของความคัน
แล้วบดขยี้มันก่อนลากมันออกมาให้โดนแสงย่อยสลาย
บางคนอาจตบตีบีบปั้นเป็นรูปทรงก่อนเขวี้ยงทิ้งไป

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบแคะขี้มูก
ระหว่างชอนไชนิ้วเข้าไป
แล้วได้พบกับบางสัมผัสหยุ่นนั้น
การได้จิกและพามันออกมาจากร่างกาย
แทบจะเป็นความสุขอย่างหนึ่ง

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตรูจะตามล่ามัน!!!"

แต่ในหลายๆ ครั้งนั้น
ผมมักลืมว่า ผมไม่ได้ตัดเล็บ
ความสนุกเพลิดเพลินสะดุดกึก
เมื่อปลายเล็บสัมผัสกับผิวอ่อนนุ่มภายใน
เล็บจิกหวังเพื่อลากแหล่งของความคันออกมา
ผลที่ได้กลับเป็น ความเจ็บปวดที่ฉีดขึ้นตามโพรงจมูก
ยิ่งหากผมออกแรงมากในความลุ่มหลงต่อการแคะขี้มูก
เส้นเลือดฝอยภายในออกแตกออก
ถึงตอนนั้น...กิจกรรมก็หยุดลง

บางทีเราก็สนุกสนาน
อยู่ในความคิดของตัวเอง
โดยไม่ได้คิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปถึงจุดไหน
หลงลืมไปว่า ปลายเล็บของเราแข็งและคม
จนเมื่อมาสำนึกเสียใจ
ในการกระทำ มันก็ไม่ได้ทันแล้ว...

หากยังคิดจะแคะขี้มูกต่อไป
อย่าลืมตัดเล็บนะครับ

Tuesday, September 11, 2007

ฝนตกทุกวันเลย

กันยาอีกแล้ว...
ฝนตกลงมาทุกเย็น

กว่ากันยายนจะผ่านไป
กระสุนจะพุ่งผ่านร่างคนอีกกี่คนนะ
อัฟกานิสถาน อิรัก ตะวันออกกลาง
ยุโรปปตะวันออก เอเซียกลาง
ภาคใต้ของรัฐไทย...

ฝนไม่อาจชะ
เรื่องราวใดๆ
ให้มีวันคืนที่เงียบกระสุนลง ?

กว่าเดือนกันยายนที่น่าหวาดกลัว
จะผ่านพ้นไป