ล้วนเป็นเธอเลือกสรร แสดงออก
เธอตอบรับแสงอย่างไร
ยามแสงฉายอาบ
เธอตอบรับสายลมอย่างไร
ยามสายลมสัมผัสต้อง
เธอตอบรับคันธารสหอมอย่างไร
ยามมวลบุปผาขจรกลิ่น
เธอตอบรับเสียงกระซิบแผ่วเบาอย่างไร
ยามสรรพสำเนียงบรรเลงพร่างพรม
เธอตอบรับโลกอย่างไร
โลกล้วนร้องรับพ้องพานตามเธอแบ่งปัน
ขอสันติเป็นรวงรังแห่งเธอนะ
...
หลายวันที่ผ่านมา
ได้นั่งอ่าน ทบทวน เรื่องราวของปวงปราชญ์
ผ่านทัศนะของโอโช เรื่องราวหนึ่งที่ได้จากการเรียนรู้
คือ เราตอบรับโลกอย่างไร โลกก็เปล่งความหมายเช่นนั้น
ปรารถนาแห่งดวงจิต
มีมิติเดินทางแสนยาวไกล
ระยะก้าวหวั่นไหวของความหมาย
ในปัจจุบันขณะจึงเป็นภาวะที่เราสามารถทะลุผ่านมองเห็นอย่างแท้จริง
ไม่ได้บรรลุตามปวงปราชญ์
เนื่องจากการสะกดรอยตัวหนังสือ
หากแต่ก็ชักชวนให้ครุ่นคิดถึงภาวะเต้นไหวบนเส้นสายของความคิด
เมื่อความคิดเดินทาง
เรายิ่งห่างไกลความจริงความคิด
ไม่อาจอธิบายสิ่งนอกเหนือจากนั้นได้
บ่วง แร้ว ดักเราหลงทางเสมอ
บางครั้งเป็นความกลัว บางครั้งเป็นความปีติ
ตลอดระยะห้วงเท้าที่ก้าวไปจึงวูบไหวไม่จบสิ้น
ขณะนี้ ตอนนี้เท่านั้น
ง่ายคือถูกต้อง เริ่มต้นให้ถูกต้อง แล้วจะง่าย
โอ้ หงส์จงบินไปโดยลำพัง
ผู้สังเกตกลายเป็นผู้ถูกสังเกต
ทุกสิ่งเหล่านั้นเอ่ยขานด้วยนามแผกกันไป
หากแต่ล้วนเอ่ยถึงภาวะยิ่งใหญ่เดียวกัน
โอบกอดกันและกันไว้
หัวใจเราเกี่ยวร้อยซึ่งกัน
...
0 Comments:
Post a Comment
<< Home