the Fall from anotherside, Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก...

Thursday, March 30, 2006

The fall's Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง
คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก เสียงแหวกอากาศหวีดหวิว
ชั่วระยะนานนัปนั้น ความมืดโอบล้อมร่างให้แยกห่างจากแสงสว่าง
ร่างปะทะผืนน้ำไม่ยาวนานนัก แต่เสียงโหยหวนกลับยาวนานชั่วนิรันดร์
แม่น้ำเพียงไหลสู่หนทางไม่อาจย้อนกลับ และคงเป็นเช่นเดิม...
และ “เขา” ไม่เคยบอกใครเรื่องนั้น

ผมไม่ได้รับการแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการกับมนุษย์สองหน้า
อย่าง ฌอง บัปติสต์ คลามองซ์ หรอกครับ
คนส่วนใหญ่ปรารถนารู้จักคนนอกอย่างเมอโซมากกว่า
และผมเองก็เกือบละเลยที่จะพูดคุยกับการ์มูอีก
หลังจากที่คนนอกไม่สามารถจับใจวัยเยาว์ของผมได้
แต่การสารภาพบาปครั้งนั้น พร่ำสนทนาในใจเรื่อยมา...

เราเวียนวนในเอกภพ โคจรรอบกัน
ตลอดการรับรู้อาจไม่เคยได้เห็นอีกด้านของกันและกัน
ระหว่างที่คลามองซ์บอกใครต่อใครว่าโลกเชื่อมโยง “เขา” ไว้ในตำแหน่งของ
ผู้อยู่เบื้องหน้า ผู้พิพากษาตัดสินความดีงาม เขาผลักดันโลกให้หมุนสู่ด้านแห่งชัยชนะ
เขาต้องอยู่รอด และเพราะสิ่งนั้นเปลือกจึงต้องแหลมและหนา
เพื่อปกป้องส่วนเปราะบางที่สุด...

ไม่รู้เหมือนกันว่าคำสารภาพเช่นคลามองซ์
จะเดินทางมาถึงริมฝีปากและปลายปากกาในวันใดข้างหน้า
อาจเพียงสักวันที่ความบอบช้ำปริแตกออก
หรือสักวันที่พร้อมเดินทางสู่โลกแปลกหน้า
อาจเป็นดังวันนั้นที่คลามองซ์รู้ว่าไม่อาจจากไปพร้อมเสียงโหยหวนชั่วนิรันดร์
ท่ามหนทางจากแสงสว่างสู่อนธกาล
ณ แม่น้ำสายนั้น.

Wednesday, March 29, 2006

สิ่งใดเติบโตเชื่องช้า เจริญได้งดงาม

ผมมาได้ยินประโยคนี้ครั้งแรก ตอนอ่าน "รักเร้นในโลกคู่ขนาน" ของมูราคามิ หาความเชื่อมโยงกับบริบทไม่ได้มากนัก
รึผมจับไม่ได้เองก็ไม่รู้ แต่ชมชอบตั้งปต่แรกเห็น แถมนานวันยิ่งเห็นลักษณะงามงดในถ้อยคำ (ที่ผมอาจนึกเอาเองนั่นแหละ)
ไม่รู้ เพราะชีวิตเร่งรีบในเมืองหลวงที่ยังหาความคุ้นชินไม่ได้ของผมกระมัง...
ต้นไม้ในโลกทุนนิยมเพื่อผลผลิตจำนวนมากที่ต้องการ จำเป็นต้องใส่ปุ๋ย เร่งต้น เร่งดอก เร่งผล บางครั้งก็ต้องใส่ยาฆ่าแมลง
ใส่ยาฆ่าวัชพืช ทำลายสิ่งหนึ่งเพื่อให้อีกสิ่งงอกงาม ทั้งที่โดยธรรมชาติสิ่งต่างๆ ก็ต่างหักลบกลบกันในคืนวันอยู่แล้วนั้น
หากเป็นอย่างที่มันเป็นไปคงดี ตอนยังเยาว์ปรารถนาเติบโต แต่เมื่อพ้นผ่านบางจุดที่ไม่สามารถเดินกลับไปได้ กลับถวิลหา
เหลือโอกาสเพียงเหม่อมองไปจากปัจจุบัน
....
ใครเคยปลูกต้นไม้แล้วรอวันตั้งแต่เมล็ดเค้งลงบนผืนดิน โปรยน้ำ โปรยฝน ผลิลำต้นพ้นและแตกยอดผลิใบ ช่วงเวลานานนับนั้น
งดงามเสมอ เพียงหวังเท่านั้น ก็แค่จริตของคนบ้าในโลกหมุนเหวี่ยงสุดขั้ว พยายามเฝ้าดูทุกสิ่งเคลื่อนไหว ขณะที่เอกภพก็หมุน
ไม่หยุดหย่อน ปริศนาถมทับทั่วร่างจนอำพรางหนทางชีวิต
อา - ชีวิต เป็นปริศนา
เชิญเถอะ!ทายท้ากับคำถาม
หลายคนค้นคิดคอยติดตาม
ใครกันข้ามไปได้เท่าทัน

ถกเถียงถกถามความเข้าใจ
เธอเองก็ใช่ไหม? นักฝัน
ร่วมค้นหาว่าสิ่งใดในคืนวัน
คือคำตอบสำคัญในชีวิต

อา - ชีวิตเป็นปริศนา
คนไหนใครบ้ากล้าท้าถูกผิด
ด้วยสุดท้ายชีวิตคือชีวิต
เป็นปริศนานิจนิรันดร์ฯ.