นิทาน ๑
สมัยเด็กๆ มีความทรงจำประการหนึ่งเกี่ยวกับนิทาน (ทั้งที่จริงมีหลายประการ
หนนี้เลือกเล่าเรื่องหนึ่งล่ะกัน - สงสัยพักนี้คุยกับอิ๊กมาก คิดถึงตอนเด็กๆ เรื่อยเลย))
คือ เทปคาสเซ็ทเสียงของพ่อที่เล่านิทานใส่เทปไว้ให้ลูกเปิดฟังเอง
เข้าใจว่าน่าจะเป็นช่วงที่ผมเองยังเด็ก และจำความไม่ได้ เพราะในนั้นมีเพียงเสียง
ร้องไห้รบกวนเวลาที่พ่อเล่านิทานให้ฟังอยู่ตลอดเวลา
กับเสียงพี่ชายที่แทรกมาบางช่วงว่า น่าเอาผมไปทิ้งในป่า
(โห โลกทัศน์วัยเยาว์ของพี่ชายผม)
นิทานเรื่องหนึ่งที่บันทึกเสียงในเทปคาสเซ็ทม้วนนั้น คือเรื่อง ลูกหมูสามตัว
ลูกหมูสามตัวของพ่อนั้นไม่เหมือนใคร เพราะเท่าที่ผมโตมาแล้วไปตามอ่านนิทาน
ตามที่ต่างๆ ไม่เคยพบวิธีการเล่าเรื่องที่เป็นอบ่างพ่อเลย พ่อจะมีวิธีเล่าเรื่องโดย
เปลี่ยนเสียงของตัวเองตามตัวละครที่เล่าถึง เสียงของลูกหมูสามตัวก็จะอย่างหนึ่ง
เสียงของชาวนา ช่างไม้ ช่างปูนที่ให้อุปกรณ์ลูกหมูมาสร้างบ้านก็อยางหนึ่ง
แถมเสียงหมาป่าก็ยียวนกวนตามประสาตัวร้าย
ผมจำประโยคเด็ดต่างๆ ไม่ได้ชัดเจนนัก เพราะเทปคาสเซ็ทม้วนนั้น
ไม่ได้อยู่กับผมในตอนนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมบอกว่าไม่สามารถหาอ่านจากหนังสือนิทาน
เล่มอื่นๆ เมื่อโตขึ้นมาไม่ใช่เสียงที่เปลี่ยนไปตามบุคลิกตัวละคร แต่เป็น
การเล่าเรื่องที่ผูกเป็นคำกลอนคล้องจอง ตอนหนึ่งที่ทำให้ผมยังจำได้มาจนบัดนี้ คือ
"น้องหมูจ๋า ข้างนอกร้อนนัก
ขอพักข้างใน ได้โปรดปรานีรับเราเข้าไป
เราจะขอบใจเจ้าให้สาสมมมมมมม(เสียงกังวาน)"
เสร็จแล้วไม่ว่าบ้านลูกหมูหลังไหนก็ไม่ยอมเปิดประตูให้หมาป่าซักหลัง
จึงโดนลมปากของหมาป่าเป่ากระจายไปเลย...
อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้จำเรื่องราวเช่นนี้ได้จนวันนี้
ยังมีนิทานอีกเรื่องที่ผมไม่เคยหาอ่านได้จากที่ไหนอีกเลยเมื่อโตขึ้นมา
วันหลังจะเล่าให้ฟังล่ะกัน พอล่ะวันนี้
ป.ล. ถามอย่างสิ ตอนเด็กจำนิทานเรื่องไหนกันได้บ้างไหม?
6 Comments:
พออ่าน ก็นึกถึงนิทานจากเสียงเทปทันที
ตอนเด็กๆ ฟังไม่รู้กี่รอบ
มีหลายเรื่องมาก
ไม่รู้ว่าเสียงคนในเทป เป็นเสียงพ่อยีนหรือเปล่า
ดีคะ ตอนเด็ก ๆ เพื่อนแสดงละคร
" ก๊อก ก๊อก เจ้าหมูตัวน้อยเปิดปักกะตูที "
" ไป่ ไป๊ อย่ามาจู้จึ้ หมาป่าตัวดีไปให้ไกล ๆ "
" ไม่เปิดก็ไม่เป็นไร หมาป่าตัวใหญ่จะเป่าให้บ้านพัง "
" อ๊ากส์ ...... "
ไม่รู้ทำไมจำได้ถึงวันนี้ 15 ปีผ่านมาแล้ว ตั้งแต่ประถมแน่ะ
น่านสิ
เทปนิทานเสียงเนี่ยช่วยให้วาดภาพตามในหัวได้ดีนักเชียว
โห ถ้าพ่อมีอาชีพนั้น คงดีไม่น้อย
ละครที่แต่งเนื้อเป็นคำคล้องจองเช่นนั้น
น่าสนุกดี นึกภาพตามถึงการแต่งตัวเด็กน้อย
แปลกดีเหมือนกันที่ยิ่งนานวัน
สิ่งเล็กน้อยยิ่งปรากฏชัด
(ตอนเด็กมีใครเคยอ่านนิทานอินเดียเรื่องช่างปั้นหม้อผู้กล้าหาญไหม? จริงๆ แค่อีสป300เรื่องก็สนุกทุกวันแล้ว)
ช่างปั้นหม้อผู้กล้าหาญ นี่จำได้ว่า เป็นเหมือนเรื่องตลกที่จริงแล้ว เขาไม่มได้มีความกล้าหาญ (ตามนิยามที่ยอมรับกัน)
แต่โชคชะตาทำให้เขาได้รับผลดีเสมอ เช่น โชคดีได้กลายเป็นทหารแม่ทัพ (ก่อนหน้านั้นไม่เล่า) ถูกสั่งให้ออกไปรบกับข้าศึก แต่เขาขี่ม้าไม่เป็น ม้าคึกเลยตะบึงวิ่งเขาก็ฉวยจับต้นไม้ไว้แต่เอาไม่อยู่ ทำให้ต้นไม้หลุดติดมือไปด้วย
ทหารข้าศึกเห็นคนขี่ม้า แกว่งต้นไม้ไปมา วิ่งตะบึงเข้าใส่ก็แต่กตื่น คิดว่าเป็นยักษ์มาบุก ทำให้ทัพข้าศึกแตกกระเจิงและช่างปั้นหม้อได้รับรางวัล ฯลฯ
ที่จริง ผมก็ไม่ได้อ่านนิทานที่บ้านที่มีหลายเล่มตั้งแต่เด็กหรอกพี่ แต่มาอ่านในตอนเรียนม.ต้น ม.ปลาย มหาลัย ไปรื้อๆ เอามาอ่านช่วงไหนฟุ้งๆ อยู่บ้านก็เอามาย้อนซะ
(เฮ้ย! จะเขียนตอบอะไรนักหนาเนี่ย ยาวไปไอ้บ้า)
www0629
pandora
coach handbags
nike air max
cheap jordans
true religion jeans
10 deep clothing
san francisco 49ers jerseys
prada outlet
oakley sunglasses
michael kors handbags
qzz0727
nike outlet
cheap jordans
fitflops sale clearance
gentle monster sunglasses
golden state warriors jerseys
jordan shoes
coach outlet
polo ralph lauren
kings jerseys
spurs jerseys
Post a Comment
<< Home