the Fall from anotherside, Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก...

Wednesday, April 26, 2006

ALWAYS sunset on third street


ขอบคุณการตัดสินใจทั้งหมดในวันนี้

หลังจากป่วยไข้มาสองสามวัน

ก็แค่ครั่นเนื้อครั่นตัว มีน้ำมูก
และเจ็บคอเท่านั้นเอง เมื่อเช้าก็เช่นกัน
หลังจากตื่นนอนตั้งแต่เช้า
เพราะนอนหัวค่ำกินยาแล้วก็นอน
ตื่นมากินข้าวกินยา
แล้วเปิดเนตเช็คข่าว
พระราชดำรัส อยู่พักหนึ่งก็ฝืนสังขารไม่ไหว
ตัดสินใจล้มตัวลงนอนตามฤทธิ์ยาอีกหน
ตื่นมาอีกครั้งเกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว
อาการครั่นเนื้อครั่นตัวหายสิ้น น้ำมูกและเจ็บคอยังมี
แต่ไอมาเยือนมากกว่าเดิม

ใครบางคนบอกว่าไม่สบายต้องพักผ่อนเยอะๆ
แต่ใครบางคนก็เคยบอกเช่นกันว่า หากยังทำตัวเหมือนป่วยไข้ไม่สบาย
เราก็จะยังรู้สึกว่าตัวเองป่วยไข้ไม่สบายอยู่เช่นนั้น
ผมตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอน ด้วยความเชื่อประการหลัง ความจริงก็เพียงตั้งใจ
จะเดินเท้าออกไปซื้อยาอมแก้ไอที่ร้านขายยาหน้าปากซอยเท่านั้น
แล้วก็อาจจะหาข้าวกลางวันกิน
จึงถือหนังสือ “กังฟู จอมยุทธ์หลุดโลก” ติดมือไปด้วย

จังหวะก่อนที่จะก้าวออกจากห้อง
เหลือบไปเห็นหมวกวางอยู่จึงหยิบติดมือมาด้วย

(ความจริงผมเป็นคนไม่ชอบใส่หมวก)
แต่เมื่อเดินไปถึงปากซอยหน้า สน.บางรัก

ร้านขายยาที่ตั้งใจจะออกมาซื้อดันปิด ทำให้เลือกเดินเข้าร้าน 7ELEVEN
ซื้อสเตร็ปซิลและยาอมเพื่อนชาวประมงอย่างละซอง
เปิดประตูออกมาก็เห็นรถเมลล์สาย 16 วิ่งผ่านหน้าไปจอดตรงป้ายหน้าร้าน
ชั่วขณะนั้นในหัวคิดเพียงว่าไปนั่งรถเล่นดีกว่า
นั่งอ่านหนังสือไปให้สุดสายแล้วค่อยนั่งกลับ (แหม..พ่อคนว่างงาน)
พอวิ่งขึ้นรถได้ยื่นแบงก์ยี่สิบให้กระเป๋าบอกว่า ลงสี่พระยา
แต่นึกขึ้นได้ว่า รถเพิ่งออกจากท่าสี่พระยานี่หว่า
กระเป๋าหูดีคนนั้นฉีกตั๋วให้เรียบร้อย ผมพลิกดูราคา 12 บาท

แล้วชะโงกหน้าไปถามกระเป๋าว่า 12 บาทลงที่ไหนครับ?
กระเป๋าหันมาตอบอย่างงงว่า “สยาม”
ถึงขณะนั้นผมก็ตัดสินใจว่า เอาว่ะ ไปดูหนังสักเรื่องก็ได้ว่ะ

ไปถึงลงป้ายที่หน้าโรงหนังสยาม ผมก็เดินดุ่มขึ้นไปดูโปรแกรม
กว่าหนังจะฉายก็รอบ 12.30 เดินวนดูว่ามีเรื่องอะไรเข้าโรงไหนบ้าง
Ice ages ก็ยังไม่ได้ดู Perhap love ก็น่าสน แต่เมื่อถึงเวลานั้นเริ่มฉุกคิดถึง
แล้วว่าผมไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร เหตุการณ์ทั้งหมดล้วนเกิดจากการ
ดุ่มเดินเข้าใส่ความคิดแวบแรกที่เข้ามาหา ตอนนี้ผมอยู่หน้าโรงหนังสยามแล้วนี่
หนังที่เข้าฉาย มีชื่อภาษาอังกฤษตัวโตเขียนว่า ALWAYS บนแผ่นโปสเตอร์รูปวาด
เหมือนใบโฆษณาสมัยก่อน

เมื่อเข้าไปอ่านใกล้ๆ ถึงรู้ว่าเป็นหนังญี่ปุ่น มีคำโปรยโฆษณาว่า

“คือบางสิ่งซึ่งกาลเวลาไม่อาจทำร้าย...
คือบางความทรงจำที่หัวใจจะไม่ลืม
เรื่องเล่าจากคืนก่อนวันเก่า ที่จะทำให้คุณหัวเราะและร้องไห้สลับกันไปในทุก 5 นาที”

ผมเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้นรอเวลาเข้าโรงหนังได้ ก็พอดีมีโทรศัพท์จากน้องที่รู้จักกัน
แต่ผมลืมบอกว่าผมเปลี่ยนหมายเลขแล้วโทรมา

อุตส่าห์ไปถามหาจากเพื่อนผมแล้วโทรมาหา
อาจเพราะเรื่องงานเป็นเป้าหมาย แต่ผมก็ดีใจที่มีใครสักคนดิ้นรนค้นหาผม
ในขณะที่ผมหลงอยู่ในกระแสชะตากรรมที่ผมยินยอมให้พัดพา...

ผมเข้าไปดูและออกมาแล้ว ซึ่งมันทำให้อยากมาเขียนถึงและบอกใครต่อใครที่รู้จักให้
ไปดูกันเถอะ ผมชอบ ไม่อยากเล่าเรื่องราวว่าเป็นเช่นไร

เพราะหากเล่าผมคงเผลอเล่ารายละเอียดเล็กน้อยที่ผมชอบออกมาในตัวหนังสือ
ขออนุญาตนำคำโปรยในแผ่นพับมาลงให้อ่านแทน
(แต่สำหรับใครที่ได้ดูแล้ว อยากชวนคุยกันนะ)


“ALWAYS sunset on third street ใช้ฉากหลังเป็นกรุงโตเกียวช่วงปลายยุค 50
ขณะที่ “หอโตเกียว” ยังสร้างไม่เสร็จดี เนื้อหาของหนังเล่าถึงชีวิต ความฝัน
ความหวังและความรัก ของหลากหลายชีวิตที่อาศัยอยู่

บนถนนสายที่ 3 ในนครหลวงแห่งนั้น
ผู้คนเหล่านั้นมีทั้งเจ้าของร้านขายขนมที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียนชื่อดัง
อดีตเกอิชาที่ผันตัวมาเปิดร้านขายเหล้ายาอาหาร
เจ้าของอู่ซ่อมรถซอมซ่อที่ฝันว่า
สักวันห้องแถวที่ทำมาหากินเล็กๆ ของเขาห้องนี้จะเติบโต
กลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
เด็กสาวจากชนบทซึ่งเดินทางสู่โตเกียวพร้อมความฝันถึงความมั่นคงในชีวิต ฯลฯ”

ฉากของเรื่องเป็นสิบสามปีหลังสงครามโลก คือปี พ.ศ. 2501
หรือยี่สิบปีก่อนผมเกิด แต่เรื่องราวหรือความฝันในชีวิตต่างๆ
ไม่แตกต่างจากความทรงจำที่หลงเหลือในวัยเยาว์ของใครต่อใครในตัวผมนัก
ผมบันทึกบางข้อความลงมือถือเพราะไม่มีปากกาและกระดาษใดใกล้มือ
ทีวี รถราง ตู้เย็น หลังสงคราม 13 ปี แหวนแต่งงาน หอคอยโตเกียว...
รอบที่เข้าไปดูมีคนทั้งโรงไม่น่าถึง 20 คน ผมนั่งอยู่แถว N หน้าสุด
อาจเพราะผมไอ และมีน้ำมูกอยู่แล้ว ผมจึงได้ยินเสียงซื้ดน้ำมูกของผมดังเป็นระยะ
แต่พอสังเกตให้ดี เสียงจากข้างหลังผมก็ฟึดฟัดเป็นระยะเช่นเดียวกัน
เป็นการดูหนังอีกครั้งที่ผมหัวเราะเสียงดังและร้องไห้หน้าเหยเกได้เต็มที่

ออกจากโรงมาด้วยความรู้สึกที่อยากจะบอกใครก็ได้ว่า
ชอบ ชอบหนังเรื่องนี้ไปดูกันเถอะ แต่ครั้นจะโทรไปหาใครก็เปลืองตังค์เกินไป
ผมออกไปยืนดูป้ายโฆษณาที่หน้าโรงบริเวณชั้นหนึ่งอีกครั้งก่อนกลับ
หางตาเห็นคู่รักคู่หนึ่งมาชี้ชวนกันหยุดอยู่ข้างๆ ด้วยอารมณ์อยากบอกใครก็ได้
ให้ไปดูหนังเรื่องนี้จึงหันไปมอง แล้วก็พบว่าเป็นน้องผู้หญิงที่รู้จักกันในเชียงใหม่
มากับแฟน น้องก็ทำท่าตกใจ ดีใจใหญ่เลยที่พบกัน แต่ผมก็บอกเพียงว่า
ไปดูหนังเรื่องนี้เถอะ ชอบ บทสนทนาในช่วงสองนาทีคงมีมากกว่านี้
แต่ผมจดจำได้เท่านั้น จากกันโดยลืมถามว่าทำอะไรอยู่ที่ไหน ตามที่ควรถาม
เพราะผมน่ะ สบายใจแล้วทีได้บอกใครอย่างที่ตั้งใจ

ขอโทษ หากการเขียนวันนี้จะดูวกวน สับสน เพราะผมกลับมาถึงห้องก็เปิดคอมพ์
แล้วนั่งพิมพ์ทันที ตั้งใจจะเขียนรอบเดียวแล้วโพสต์ให้คนอื่นอ่านเลย
เพราะรู้สึกดีกับจังหวะชีวิตในวันนี้ โชคชะตาพาผมไปจนได้ดูหนังเรื่องนี้ พบใครต่อใคร
แน่นอน ผมยังคงไออยู่ตลอดเวลาที่พิมพ์นี้ แต่สุขใจพิกล

ปล. กลับมาห้องได้รับจดหมายจากไอ้น้องโอ จดหมายดีๆ ที่น่าดีใจ

ขอบใจมากนะน้อง

10 Comments:

At 9:06 PM, Blogger AUY ^ ^ said...

มาล่ามาช้า
กว่าจะได้เข้ามา พี่ยีนก็เขียนไปได้หลายวันแล้วสิ
ตัวหนังสือของพี่ ยังน่าอ่านอยู่เหมือนเดิมนะ
ข้อความที่คุ้นหู คุ้นตา
อ่านแล้วสบายใจดีจัง

หายป่วยไข้ไวๆนะคะ

^^

 
At 12:02 AM, Blogger eek said...

โทรมาบอกกันมั้งดิ
โทรหาเราไม่เปลืองตังค์หรอก

 
At 8:06 AM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

วู้วว

วันนี้มีสาวๆ (เอ๊ะ หรือไม่ใช่)
มาเยี่ยมเยือนตั้งสองคน

ขอบใจจ้าน้องอุ๋ย

บ้า อิ๊กเบอร์โทรใครไม่เสียกะตังค์
อีกอย่างฉันไม่รู้เบอร์โทรนิ

 
At 10:12 AM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

ขอบใจมากๆ ต้น เราไปแก้ไขมาแล้ว
ไม่รู้มาก่อนเลยว่า ไปกันคนอื่นไว้ด้วย

ไว้ป่วยไข้คราวหน้าจะลองเดินดูนะ
(แต่ไม่อยากให้มีคราวหน้าเลยว่ะ)

เออ หาดูล่ะกัน อาจไม่ชอบเหมือนเราก็ได้นะ

แต่อาการป่วยไข้ของต้น นี่หลอนว่ะ
ฟังสกอร์เปี้ยกล่อมเกลาซะงั้น

ดีใจที่แวะมานะ

 
At 7:02 PM, Anonymous Anonymous said...

เย้ หัวข้อนี้ชนะเลิศ
คนเข้าเยอะที่สุดตั้งแต่เขียนมา


(เราเข้ามาปั่นตั้งสามหน ไม่เยอะได้ไง)

ปล. อย่าลืมไปดู ALWAYS กันนะ
ฮ่าๆ ไม่ลืมเป้าหมายเดิม

 
At 4:54 PM, Anonymous Anonymous said...

สวัสดีพี่
ได้แวะเวียนเข้ามา blogo น่ารักมาก
ถ้าหนังเรื่องนี้เข้าก็จะไปดูให้ได้ค่ะ

คิดถึงนะเนี่ย
ไว้แวะมาหาอีก

 
At 4:54 PM, Anonymous Anonymous said...

สวัสดีพี่
ได้แวะเวียนเข้ามา blogo น่ารักมาก
ถ้าหนังเรื่องนี้เข้าก็จะไปดูให้ได้ค่ะ

คิดถึงนะเนี่ย
ไว้แวะมาหาอีก

 
At 8:14 PM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

เอาลิ้งค์มายั่วน้ำลายครับ
http://www.always3.jp/index.html

ชวนใครไปดูก็ได้ไม่จำกัดวัย และความสัมพันธ์

 
At 2:52 PM, Blogger Unknown said...

www0629
coach factory outlet
cheap snapbacks
kyrie 4
football shirts
coach outlet
christian louboutin shoes
polo ralph lauren
michael kors outlet online
supreme uk
denver broncos jerseys









 
At 8:59 AM, Blogger te12 said...

qzz0727
canada goose outlet
fossil watches
fitflops
light up shoes
prada handbags
oakley sunglasses
canada goose outlet
true religion jeans
true religion jeans
manchester united jersey

 

Post a Comment

<< Home