the Fall from anotherside, Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก...

Monday, May 22, 2006

ไม่มีแห่งไหนห่างไกลเกินนี้

แร, นี่เป็นวันเวลาสุดท้ายของขวบปี, เป็นช่วงเวลาพิเศษแห่งการเฉลิมฉลองที่ฉันสามารถอยู่ร่วมกับเธอได้, จงเรียนรู้ในสิ่งซึ่งฉันได้รับรู้มาจากบรรดาเจ้านกเพื่อนพ้องของเราเหล่านั้น. ฉันมิสามารถที่จะไปอยู่ร่วมกับเธอได้ ทั้งนี้เพราะฉันไปถึง ณ ที่นั้นเรียบร้อยแล้ว. เธอมิได้เยาว์วัยอยู่ เพราะเธอเองก็ได้เจริญเติบกล้ามาเรียบร้อยแล้ว, เพลิดเพลินไปเถิดในระหว่างช่วงชีวิตของเธอ ให้เหมือนกันกับพวกเราทุกๆ คน, ทั้งนี้ เพื่อความหฤหรรษ์แห่งการมีชีวิตอยู่.


เธอ ไม่มีวันเกิดหรอก ทั้งนี้เพราะเธอเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว, เธอไม่เคยได้ถือกำเนิดมาเลย, และเธอเองก็จะไม่มีวันตาย. เธอมิใช่ลูกของผู้คนที่ตัวเธอเองเรียกขานว่า บิดาและมารดา, แต่ผู้คนเหล่านั้นที่ร่วมชะตากรรมบนเส้นทางของความงดงาม ก็เพื่อจะทำความเข้าใจต่อสรรพสิ่งนั้นที่เป็นมา


ของขวัญทุกชิ้นจากมิตรสหายก็คือถ้อยคำอธิษฐานสำหรับความผาสุกของเธอ, และดังนั้นมันจึงอยู่กับแหวนวงนี้เอง.


ล่องลอยไปโดยอิสระและมีความสุขใจ โพ้นลิบไปยิ่งกว่าจุดเริ่มต้นของกำเนิด และฝ่าข้ามชั่วนิจนิรันดร์, ซึ่งเราได้ประสบกับมันแล้วในเดี๋ยวนี้ และปรารถนาอธิษฐาน, ให้คำพรเหล่านี้ได้สถิตอยู่ในใจของทุกคนซึ่งจักไม่มีวันเวลาที่สิ้นสุดลงเลย.
ริชาร์ด บาค : ประพันธ์
เรืองยศ จันทรคีรี : แปล
จากวรรณกรรมเรื่อง There's No Such Place As Far Away

ผมเผอิญพบหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกในห้องชมรมวรรณศิลป์ในมหาวิทยาลัย สมัยที่เรียนปริญญาตรีอยู่ หนังสือขนาดบางประมาณหนึ่งเซ็นติเมตรถูกเบียดบังจากหนังสือมากมายในชั้น ในเล่มมีภาพประกอบสีขาวดำขนาดใหญ่ ตัวหนังสือเสียอีกที่มีจำนวนน้อยหน้าจนเหมือนไม่มีอะไร ผมหยิบติดมือกลับหอพักมาอ่าน เพราะเห็นว่าเป็นนักเขียนคนเดียวกับโจนาธาน นางนวลผู้ตั้งคำถามมากมาย หลังจากนั้นผมก็รู้สึกว่ามีหลายคำถามและคำตอบที่กระทบจับความรู้สึกที่มี อาทิ "ระยะทางมันแบ่งแยกตัวเราให้พรากจากหมู่เพื่อนฝูงได้กระนั้นหรือ? ถ้าคุณต้องการจะไปอยู่ร่วมด้วยกับแร, มันมิใช่ว่าคุณได้ไปถึง ณ ที่นั้นเสร็จสรรพแล้วหรอกหรือ?"

จนเมื่อได้พบอีกครั้งในร้านหนังสือเก่า จึงมีโอกาสพกติดกระเป๋าเดินทางบ้างในช่วงชีวิตที่ผ่าน

หลายประโยคอาจชวนให้ไขว้เขว้ในการตีความ แต่ผมก็ยังรู้สึกว่า ผมชมชอบอานุภาพของความรู้สึกในการระลึกถึงกันในหมู่เพื่อน การเจริญเติบโต การมีอยู่ และรู้สึกว่าแม้ผมจะคัดลอกเนื้อหาตอนท้ายมาให้อ่านก่อน ก็คงไม่ทำให้ผู้อ่านที่คิดจะค้นหามาอ่านผิดอรรถรสไป เพราะหนังสือเล่มนี้จะพาผู้อ่านเติบโตไปทีละหน้า ทีละหน้ากับคำถาม-คำตอบของเหล่าพ้องเพื่อนนก คุณจะได้พบความหมายเหล่านั้นแตกต่างจากผม เมื่อคุณค้นพบมันเอง

ผมรู้สึกดีเสมอที่ได้ระลึกถึงว่า
เพียงคิดถึงใครสักคน เราก็ได้อยู่ใกล้กันในความคิดถึงนั้นแล้ว
ผมไม่ได้นำแหวนที่นกฮัมมิ่งมอบต่อแรติดมาด้วย แต่คุณคงได้รับมันแล้ว^^

ปล. ผมฟังเพลง "Lover's Concerto"โดย "Kelly Chen"
ขณะที่เขียนข้อเขียนนี้ รู้สึกดีแท้เทียว (ว่าแต่จะบอกทำไมเนี่ย?)

9 Comments:

At 3:59 AM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

มีความสุขนะเฟ้ย คุณสุรางคนาง

จะตีสี่แล้วนอนไม่หลับ แวะมาอวยพรแกดีก่า
ไอ้น้องกิ๊บก็ยังปั่นงานอยู่เลย

มาบ่นไรเนี่ย นอนดีกว่า^^

 
At 11:20 AM, Anonymous Anonymous said...

เขียนบล็อกไปในขณะที่ฟัง Lover's Concerto ไปด้วย และกำลังคิดถึงใครด้วยหรือเปล่าครับ อิอิ

ชอบชื่อหนังสือ There's No Such Place As Far Away ...

ขอบคุณครับที่แนะนำ

 
At 12:27 PM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

โว้ คุณพี่บุญชิตฯ
สวัสดีครับพี่ ดีใจที่แวะมาเยี่ยมครับ
ผมจะสารภาพความจริงว่าLover's Concerto
ที่ไปแอบฟัง มาจากเวบของพี่เองครับ^^
เท่าที่ผมรู้ ยังมีงานเขียนของบาร์คเรื่องอื่นอีกสองเล่มที่แปลเป็นภาษาไทย คือ "มายา" (illusion)กับ"คือหนึ่ง" (the one)น่ะครับ

แหะๆ คุณ king of pain พอดีเพลงเขาเพราะดี รู้สึกเหมาะเจาะกับอารมณ์ในตอนที่เขียนน่ะครับ แต่ก็คิดถึงใครเต็มไปหมดเหมือนกัน เพื่อนฝูง การระลึกถึงกัน การเติบโต อย่างที่นกฮัมมิ่งมีต่อแรเลยครับ^^

ผมก็ชอบชื่อนี้ครับ และรู้สึกว่าหนังสือเล่มเล็กๆ นี้มีที่ทางให้ผมเดินทางไปด้วยเยอะเลยน่ะครับ

 
At 2:49 PM, Anonymous Anonymous said...

ง่า...ไม่เคยเห็นเล่มนี้เลย
ช่วงนี้ผม พยายามอ่านวัยเด็กของเมอร์ลินอยู่
มันเป็นแฟนตาซี ที่มึด ๆ ทึม ๆ ดี
แต่คงไม่ดัง
ท่ามกลางกระแสแฟนตาซีเชี่ยวกราก...

 
At 3:00 PM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

เมอร์ลินไหนอ่ะ ต้น
ใช่พ่อมดเมอร์ลินตอนเด็กๆ ไหม
เอ..ไม่น่าใช่ แนะนำบ้างสิ
เราก็ชอบเทพนิยาย หรือแนวแฟนตาซีนะ

 
At 5:16 PM, Blogger AUY ^ ^ said...

เขียนซะอยากอ่านเลยอ่ะพี่ยีน
ได้ยินชื่อหนังสือนางนวลมานานโข
แต่ก็ไม่มีโอกาศได้อ่านซักที

^^

 
At 2:04 AM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

น้องอุ๋ย

เล่มนี้มีอยู่ที่เมืองหลวงนะ อยากอ่านเดี๋ยววันหลังพาไปให้ยืมได้ แต่เล่มนี้ต้องค่อยๆ อ่านนะ เพราะเปิดฉับๆ สิบนาทีก็จบแล้ว ส่วนโจนาธานน่ะ อยู่ที่บ้านอ่ะ ไม่ได้พามาด้วย^^

คุณ carre de mim

ดีใจที่ได้ยิน (อ่าน) ข่าวดีครับ
การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐยิ่ง โดยเฉพาะไปป่วยไข้อยู่ไกลจาก "บ้าน" จากคนในครอบครัว สำหรับผมเนี่ยคงเหงาพิลึกเลย อย่างไรก็รักษาตัวให้ดีต่อไปนะครับ ยังมีเรื่องอีกมากมายเลยที่เราสามารถทำได้

วันนี้ก็เอาเรื่องเพลงนี้ไปคุยกับน้องอีกคน เขาบอกจะส่งมาให้อยู่ครับ อาจได้ฟังเพลงนี้ในผลงานของบาคอีกครับ พอดีก็หลงเข้าไปกดอ่านไปเรื่อยน่ะครับ วันละข้อเขียนสองข้อเขียน ได้ความรู้บางเรื่องที่ไม่มีประสบการณ์ตรงดีครับ

คงจะดีถ้ามีการฟื้นฟูขึ้นมาอีก (ถึงกระนั้นก็ตามวาระครับ ไม่มีโอกาสฟื้นฟูก็ยังมีที่ทางที่แต่ละคนไปสร้างต่อเองได้ครับ) แต่ถ้าถึงวันนั้นจริงๆ อย่าให้ผมต้องเป็น gold class customer เลยครับ
เพราะผมคงตัวเหลืองอร่ามเรื่อๆ น่ากลัวพิลึก^^

 
At 9:19 AM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

เย้
ในที่สุดคุณ carre de mim ก็หลงมาเข้าทางจนได้ หลังจากไปฟังเองคนเดียว ผมก็พาหน้าเวบของเพลง papillon ไปอวดใครเขาซะทั่วเลย มีเพื่อนคนนึงบ่นว่าอยากได้ไว้ฟังบนรถ คงจะมีความสุข ไม่เคร่งเครียดดีครับ ไอ้ผมก็จนหนทางจะช่วยเข้าได้

หากไม่เป็นการรบกวนจริงๆ ก็ขอความกรุณาด้วยนะครับ
sukkunsi@hotmail.com
ขอบคุณครับ

 
At 1:23 PM, Blogger eek said...

:D เข้ามายิ้มแก้มปริ หน้าบานเลย
ได้รับความกรุณาใจดีจากคุณ carre de mim
ที่จะส่งมอบเพลง Le Papillon ให้

:D

 

Post a Comment

<< Home