the Fall from anotherside, Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก...

Tuesday, March 13, 2007

วิมุตติคาถา ๒ เว่ยหล่าง

“แหม! ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้ (Essence of Mind) นั้นเป็นของ
บริสุทธิ์ อย่างบริสุทธิ์แท้จริง!
ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้อำนาจความ
ต้องเป็นอยู่ หรือภายใต้ความดับสูญ อย่างอิสระแท้จริง!
ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นสิ่งที่มีความสมบูรณ์อยู่ในตัวมันเอง
อย่างสมบูรณ์แท้จริง!
ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความเปลี่ยนแปลง
อย่างนอกเหนือแท้จริง!
ใครจะไปคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏออกมานี้ ไหลเทออกมาจาก
ตัวจิตเดิมแท้!”


เว่ยหล่าง (หรือฮุยเล้ง หรือฮุยเหน็ง: ญี่ปุ่นเรียก อีโน หรือเยโน ค.ศ.๖๓๘-๗๑๓)

ท่านเว่ยหล่างหรือฮุยเหน็ง เป็นพระสังฆปรินายกแห่งพุทธศาสนาอย่างเซน
องค์ที่ ๖ (สายจีน) ท่านกำพร้าบิดาตั้งแต่ยังเยาว์ วันหนึ่งขณะรุ่นหนุ่ม
ได้หาบฟืนไปขายในตลาดเมืองกวางเจา (แคนตอน) ก็ได้ยินลูกศิษย์ของ
พระสังฆปรินายกองค์ที่ ๕ กำลังสาธยายวัชรปรัชญาปารมิตาสูตรอยู่. พอ
ได้ยินข้อความแห่งพระสูตรนั้นเท่านั้น ใจของท่านก็ลุกโพลงสว่างไสวในพุทธธรรม
ทันที! ท่านจึงเดินทางไปขอศึกษาเซนจากอาจารย์หว่างหยั่น พระสังฆปรินายก
องค์ที่ ๕ ณ วัดตุงซั่น ตำบลวองมุย เมืองคีเจา ท่านเว่ยหล่างได้ไปอยู่
ที่วัดนั้นโดยทำหน้าที่เป็นคนตำข้าวในโรงครัวของวัดอยู่เป็นเวลาหลายปี

วันหนึ่งท่านอาจารย์หว่างหยั่นได้ขอให้ศิษย์ทุกคนเขียนโศลกว่าด้วย
เรื่องจิตเดิมแท้ โดยกล่าวว่าถ้าผู้ใดเข้าใจได้ถูกต้องว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นอย่างไร
ผู้นั้นจะได้รับมอบผ้ากาสาวพัสตร์ (อันเป็นเครื่องหมายตำแหน่งพระสังฆปรินายก)
พร้อมทั้งธรรมะ (อันเป็นคำสอนเร้นลับของนิกายเซน) ท่านชินเชา
ผู้เป็นหัวหน้าศิษย์ ได้แต่งโศลกว่า,

"กายของเราคือต้นโพธิ
ใจของเราคือกระจกอันใส
เราเช็ดมันด้วยความระมัดระวังทุกๆ ชั่วโมง
และไม่ยอมให้ฝุ่นละอองจับ"


ท่ายเว่ยหล่างอ่านหนังสือไม่ออก แต่ให้เพื่อนศิษย์อ่านให้ฟัง ก็รู้ว่าผู้
แต่งโศลกนั้นยังไม่เห้นแจ้งในจิตเดิมแท้ ท่านจึงให้เสมียนแห่งตำบลกองเจาซึ่ง
อยู่ในที่นั้นช่วยเขียนโศลกของท่านไว้ดังนี้

"ไม่มีต้นโพธิ์
ทั้งไม่มีกระจกเงาอันใสสะอาด
เมื่อทุกสิ่งว่างเปล่าแล้ว
ฝุ่นจะลงจับอะไร?"

คืนวันต่อมาอาจารย์หว่างหยั่น พระสังฆปรินายกองค์ที่ ๕ ได้เรียกท่าน
เว่ยหล่างเข้าไปพบ และอธิบายข้อความอันลึกซึ้งในวัชรสูตรให้ฟัง พอถึงข้อ
ที่ว่า "คนเราควรจะใช้จิตของตน ในวิถีทางที่มันจะเป็นอิสระได้จากเครื่อง
ข้องทั้งหลาย" ทันใดนั้นท่านเว่ยหล่างก็ได้บรรลุการตรัสรู้ธรรมโดยสมบรูณ์
และได้เห็นชัดแจ้งว่า "ที่แท้ทุกๆ สิ่งในสากลโลกนี้ ก็คือตัวจิตเดิมแท้นั่นเอง
มิใช่อื่นไกล" และท่านก็ได้อุทานขึ้นต่อหน้าอาจารย์ว่า

“แหม! ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้ (Essence of Mind) นั้นเป็นของ
บริสุทธิ์ อย่างบริสุทธิ์แท้จริง!
ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้อำนาจความ
ต้องเป็นอยู่ หรือภายใต้ความดับสูญ อย่างอิสระแท้จริง!
ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นสิ่งที่มีความสมบูรณ์อยู่ในตัวมันเอง
อย่างสมบูรณ์แท้จริง!
ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความเปลี่ยนแปลง
อย่างนอกเหนือแท้จริง!
ใครจะไปคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏออกมานี้ ไหลเทออกมาจาก
ตัวจิตเดิมแท้!”


ซึ่งอาจารย์ก็ได้กล่าวต่อไปอีกว่า,

"สำหรับผู้ที่ไม่รู้จักจิตใจของตัวเองว่าคืออะไร ก็ป่วยการที่ผู้นั้นจะ
ศึกษาพุทธศาสนา ตรงกันข้าม ถ้าผู้ใดรู้จักจิตใจของตนเองว่าเป็นอะไร และ
เห็นด้วยปัญญาอย่างซึมซาบว่า ธรรมชาติแท้ของตนเองคืออะไรด้วยแล้ว
ผู้นั้นคือวีรมนุษย์ (นายโรงโลก) คือครูของเทวดาและมนุษย์ คือพุทธะ"

แล้วท่านเว่ยหล่างก็ได้รับมอบธรรมะ เป็นทายาทรับมอบคำสอนแห่ง
นิกาย "ฉับพลัน" พร้อมทั้งบาตรและจีวร เป็นพระสังฆปรินายกแห่งพุทธ-
ศาสนาอย่างเซน (สายจีน) องค์ที่ ๖ สืบต่อไปจากอาจารย์ของท่านนั่นเอง.

ป.ล.
เมื่อวานวันเดียว
โทรทัศน์ที่ห้องถ่ายทอดเรื่องราว
ธรรมชาติวินาศในประเทศไทยไปตั้งสามเรื่อง
ทั้งปลาในแม่น้ำเจ้าพระยา ไฟป่าทางเหนือ
และเชียงใหม่ในหมอกละอองฝุ่น...
ตื่นมาแล้วยังแข็งแรง ก็โชคดีแล้วครับ
เพราะฉะนั้นขอให้แข็งแรง มีเรี่ยวแรงทำเรื่องที่อยากทำ
และเรื่องดีๆ อื่นๆ ต่อไปนะครับ ^^

7 Comments:

At 12:54 PM, Anonymous Anonymous said...

ผมอ่านแล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องจิตเดิมแท้เลยครับ
สงสัยว่า คงต้องใช้เวลาเรียนรู้อีกสักระยะ แหะๆ

ดูข่าวเช้าวันนี้ หลายๆ เขต หลายๆ จังหวัดประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้ว น่าเศร้าจัง

พวกปลา พวกสัตว์น้ำก็น่าสงสาร น้ำคือบ้านแห่งเดียวของพวกมันอ่ะเนอะ

 
At 8:17 AM, Anonymous Anonymous said...

ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกครับ
เรื่องจิตเดิมแท้น่ะ เพียงแต่รู้สึกว่า
ชอบประสบการณ์การขบโกอาน
และภาวะซาโตริของเรื่องเล่าของพระ
จริงๆ ก็ชอบเรื่องเล่าของพระมานานแล้วเหมือนกัน

ชอบอ่านสนุกดี บางทีอภินิหารเยอะเชียว^^
เนี่ย...ในเล่มเดียวกันมีเรื่องของท่านพุทธทาส
และหลวงพ่อเทียนด้วยไว้จะมาโพสแบ่งปันกันนะครับ

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาเขียนอะไรในเน็ตเลยครับ
เริ่มงานใหม่ช่วงปิดเทอมพอๆ กับจ้องส่งบางบท
ของวิทยานิพนธ์ก่อนอาจารย์ที่ปรึกษาจะไปเมืองจีน
มีเรื่องราวมากมายเดินเข้า ผ่านไป และตกค้างในชีวิต
ทั้งเรื่องโลกร้อน (ยังกังวลอยู่) เรื่องกระแสน้ำ กระแสลมเปลี่ยนทิศ เรื่องลูกแมวคลอดออกมาใหม่ เรื่องสงครามในตะวันออกกลาง เรื่องวิทยานิพนธ์ เรื่องข้าวกล่อง เรื่องการประท้วงของผู้คนต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ดูข่าวที่เผ่ามายาทำพิธ๊ปัดรังควานสถานที่ที่จอร์จ บุชไปเยี่ยม)แหลมตะลุมพุกจะหายไปใน50ปี ถ้าเรายังเพิกเฉยกับเรื่องโลกจากฝีมือเรา ก๊าซมีเธนกับคาร์บอนไดออกไซด์ โลกของกระแสลมยามเย็น สวนสาธารณะในเมือง...ฯลฯ...

อยากเขียนถึงอะไรมากเลย
แต่ก็ยังพลัดวันอยู่เรื่อยเชียว...
ขอบคุณที่ยังเข้ามาทักทายกันนะครับ ^^

 
At 8:35 AM, Anonymous Anonymous said...

อืม...
วันนี้ผมจะไปตัดผมแถวท่าช้าง-ท่าพระจันทร์
ถ้าคุณขามไปมหาลัยอาจได้เดินสวนกันแถวนั้น
แล้วว่าจะนั่งเรือท่องล่องเจ้าพระยา ^^

แล้วเจอกันครับ

 
At 11:55 PM, Anonymous Anonymous said...

สู้ๆ คุณยีน
เรื่องงานกับวิทยานิพนธ์ ^^

ป.ตรี ผมเรียนที่ท่าพระจันทร์ครับ แต่ตอนนี้ไปเรียนที่อื่นแล้ว แหะๆ
แต่ผมก็ยังหาเรื่องไปแถวท่าพระจันทร์บ่อยๆ
มันผูกพันมั้งครับ

ต้นเดือน เม.ย. ผมต้องส่งต้นฉบับวิทยานิพนธ์
และก็ต้องเตรียมตัวสอบแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ
อยากจบไปหาอะไรทำเป็นเรื่องเป็นราวสักที

แล้วคุยกันครับ

 
At 6:06 PM, Blogger AUY ^ ^ said...

ไม่ได้เข้ามานานแล้ว
กลายเป็น บล๊อกเกอร์ ธรรรมมะซะแล้วพี่

ดีใจที่พี่ยังสบายดีอยู่

^^

 
At 9:42 AM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

คุณขาม...
ขอบคุณครับ ^^
แต่อย่างไรเสียผมคงต้องทำไปอีกปีนึงน่ะครับ
รอยินดีกับคุณขามก่อนเลยแล้วกันครับ
สำหรับตัวเล่มในเดือนเมษานี้
อยากออกไปให้การสถานศึกษาเหมือนกันครับ
แล้วค่อยคุยกันอย่างที่ว่าครับ ^^

น้องอุ๋ย...
อะไร ?!
ธรรมะอะไร ^^ เขียนไปงั้นเอง
เพราะเดิมทีตอนที่เริ่มเขียนบล็อกครั้งแรก
ตั้งใจจะให้เป็นเรื่องราวระหว่างที่ร่วงหล่นลงน้ำ
แล้วในหัวจะคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง
กอปรกับตั้งใจว่าจะเหน็บหนังสือใน(เกือบ)ทุกตอนที่เขียน หลังๆ ไม่ค่อยได้เขียนถึงหนังสือเลย
ก็เลยนำเล่มล่ามาแบ่งกันน่ะ ^^

ดีใจที่น้องยังสบายดีเช่นกัน
แม้จะเหงาไปหน่อยก็เถอะ ความรู้สึกของคนเมืองเหงาๆ ที่ต้องซื้อของทางเน็ตเพื่อรอคนมาส่งพัสดุแล้วรอรับน่ะ น่านำไปเขียนหนังสือมากเลย น้องเหงาได้ใจเชียว.. T_T

ยังคงแวะไปอ่านเรื่องราวของน้องบ้าง
ในบางยามเข้าเน็ตนะ ^^

คุณพี่บุญชิตฯ...
สวัสดีครับ ไม่พบกันในเน็ตตั้งนาน
เพลงน่ะผมฟังไม่สะดวกน่ะครับเดี๋ยวนี้
เพราะที่ทำงานใหม่ไม่มีลำโพง เน็ตที่ห้องก็ช้า
ต้องนั่งรอให้เพลงมันมิกซ์กัน...
แหะๆ โชคดีที่เพลงมันพอจะกลืนกันได้ ไม่งั้นคงหนวกหูน่าดูเลย สองเพลงดีกันเนี่ย^^

เดี๋ยวกลับไปห้องจะลองฟังนะครับ ^^

 
At 9:01 AM, Blogger te12 said...

qzz0727
christian louboutin outlet
michael kors outlet
true religion outlet
polo shirts
supreme uk
air jordan 3
cheap jordans
belstaff jackets
canada goose jackets
michael kors

 

Post a Comment

<< Home