the Fall from anotherside, Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก...

Sunday, July 30, 2006

เวลา

คำถามปริศนาในวงการวิทยาศาสตร์ประการหนึ่งคือ
เวลามีอยู่จริงหรือไม่?
การที่เรารู้จักเวลาเพราะการกำหนดขึ้นมาของมนุษย์หรือเปล่า
หากไม่มีมนุษย์สิ่งที่เรีบกว่าเวลายังถูกเรียกขานและแสดงการดำรงอยู่ไหม
แน่นอนในเมื่อยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจนนัก
ทุกคนยังถือว่าเวลามีอยู่จริง เพราะหากไม่มีเวลาสมมุตินี้
ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์หลากหลายทฤษฎีคงถึงคราวปิดตัวเองลงไป...

บางครั้งเวลาก็ทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อตรง
หน้าที่ที่จะเดินทางเป็นเส้นตรงไปข้างหน้าเสมอจากต้นจนจบ
แต่แนวคิดทางตะวันออกเวลาไม่ได้เดินทางเป็นเส้นตรง
หากแต่มันคือ วงจร คือ วัฏจักร เวลาที่เดินทางเป็นวงกลม

บางครั้งเวลาก็ถูกบีบรัดและแปรเปลี่ยนคามปัจจัยของสถานที่และแรงกระทำ
บริเวณปากหลุมดำนั้น แสงเดินเข้าไปแล้วคล้ายหยุดนิ่งเนิ่นนาน
การ์ตูนวิทยาศาสตร์เรื่องหนึ่งเขียนถึงการหายไปในหลุมดำก่อนหน้าเกือบยี่สิบปี
แต่ตัวละครอีกคนตัดสินเดินทางไปตายที่หลุมดำเดียวกัน
กลับสามารถพบหน้าของคนที่หลุดเข้าไปในหลุมดำก่อนหน้าเกือบยี่สิบปีได้
เวลาหนึ่งนาทีบนปากหลุมดำนั้น ยาวนานเกินกว่ายี่สิบปีของมนุษย์ทั่วไป

ไอน์สไตน์คงลำบากใจหากไม่มีเวลาสัมพัทธ์มาเกี่ยวข้องกัน
ทฤษฏีสัมพัทธภาพอันยิ่งใหญ่คงไม่สามารถเปล่งอานุภาพได้ขนาดนี้
แล้วไตรลักษณ์ของพุทธองค์ล่ะ
...ฯลฯ...

ยามที่เขียนถึงสิ่งนามธรรมต่างๆ
ใครจะสามารถให้ข้อสรุปชัดเจนได้
ผมเขียนมันด้วยความรู้สึกปรารถนาบ่นถึงเท่านี้น

สุดท้าย, เวลาอาจเป็นสิ่งสมมุตินามของมนุษย์เท่านั้น
แม้ว่ามันจะมีตัวจริงอยู่รายรอบเราเสมอก็ตาม
อยู่ที่เราจะเรียกขานมันด้วยนามใด...

ป.ล.
กระนั้นเวลาก็ยังเป็นสิ่งที่มนุษย์อยู่กับมันมากที่สุด
ไทม์แมชชีน ของ เอช.จี.เวลล์
แสดงถึงความปรารถนาข้องเกี่ยวและเปลี่ยนแปลงมันเสมอ
เวลา ของ ชาติ กอบจิตติตั้งคำถามกับชีวิตความแก่ชรา สารัตถะในชีวิต
แม่น้ำรำลึก ของ เรวัตร ฯ มองย้อนไปในคืนวันที่ผ่านเลย...
วรรณกรรมอีกมากมายที่ใช้และตั้งคำถามในเรื่องเหล่านี้
อาจเพราะมันคือชีวิตของเรานั่นเอง

ป.ล.สอง
"เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เราละเลียดใช้ไปกับความสุข"
อย่างน้อยเราก็หายใจเอาช่วงเวลานั้นไปแล้วนะ
มันคงไหลวนในตัวเราตลอดไปแหละ (^^)

15 Comments:

At 9:16 AM, Anonymous Anonymous said...

ลุงหนวดเคยอ่านเรื่องทฤษฎีรูหนอนของเวลารึเปล่า
มันใช้เปรียบเทียบทฤษฎีนี้ให้เข้าใจง่ายขึ้น

หากเวลาเหมือนระนาบของกระดาษ
รูหนอนของเวลาเหมือนกับเมื่อเราโค้งกระดาษให้รูสองรูมาตรงกัน
เราชอบศึกษาเรื่องเงื่อนเวลาในระบบวิทยาศาสตร์
และรู้สึกว่าสิ่งที่เรารู้ เป็นเพียงเสี้ยวนิดในความจริงในธรรมชาติ

แนะนำหนังสืออย่าง The One(คือหนึ่ง) ของ ริชาร์ด บาร์ก
ที่จุดประกายความสนใจเรื่องนี้
ให้คนเกลียดฟิสิกส์อย่างฉันหัวปักหัวปำกับการศึกษาเรื่องทฤษฏีสัมพันธภาพได้

มีหนังสือและหนังมากมายที่เขียนเรื่องเวลา
บางเรื่องอย่าง Butterfly effect ทำให้การย้อนเวลาเป็นเรื่องน่าหวาดกลัว
เออ พูดเรื่องหนังกับหนังสือเรื่องนี้พูดได้เป็นวันๆ

สุดท้ายแล้วคงทำได้เพียงทำวันนี้ให้ดีที่สุด
เพื่อที่จะไม่เสียใจเมื่อมองย้อนกลับไปเท่านั้นเอง

 
At 1:37 PM, Blogger AUY ^ ^ said...

เรื่องเวลาคงเป็นเรื่องลึกลับที่เราสงสัยกันต่อไป
แต่ที่แน่ๆ เวลาทำให้คนเปลี่ยน
เป็นสัจธรรม

^^

 
At 7:05 AM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

น้า...
เคยอ่านอยู่ครับสมัยยังเด็กผมน่ะแฟนชัยพฤกษ์วิทยาศาสตร์กับรู้รอบตัวนะครับ แต่รูหนอนอธิบายการเคลื่อนที่ในอวกาศกับแนวคิดเรื่องเดินทางข้ามเวลานี่ครับ...

ส่วน The One ยังไม่เคยอ่านดีๆ สักทีครับ แนวคิดเรื่องการเดินทางของบาร์กยังปรากฏในหนังสือเล่มอื่นของเขาด้วยนี่ครับ ทั้ง มายา และไม่มีที่แห่งไหนห่างไกลเกินนี้ ผมชอบทฤษฏีสัมพัทธภาพเพราะมันอธิบายเรื่องราวเล็กๆ รอบตัวได้ดีครับ

ยังเห็นด้วยกับ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดครับ (^^)

น้องอุ๋ย...
เปลี่ยนไปทางดีและไม่ดีได้ทั้งนั้นนะ
ขอให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีต่อน้องนะ

 
At 1:11 PM, Anonymous Anonymous said...

เวลาที่เรารออะไรบางอย่างอย่างใจจดใจจ่อ 1 นาที
ยาวนานเหมือน 1 วัน
แต่
เวลาที่เรามีความสุข 1 วันนั้น ช่างสั้นนัก เหมือนผ่านไปเพียง 1 วินาที
><"

 
At 10:11 PM, Anonymous Anonymous said...

ที่ว่าเขียนหลุดมันยังไงพี่ ที่เขียนมานั่นผมว่าอ่นดุแล้วมันหนักจังหวะดีว่ะ คล้ายๆบทตอนเขาแห่โขนยังไงไม่รู้
ที่ผนเขียนนั่น ผมลองนึกอารมณ์เก่าดูน่ะ...

 
At 12:23 AM, Anonymous Anonymous said...

บางทีก็อยากจะลืมๆ ไอ้ "เวลา" นี่ไปบ้าง
และเบื่อทุกครั้ง ที่เวลามักเดินย้อนหลัง ให้คิดหมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องเก่าๆ

ปล. เอา url เพลง ไปให้ใครเหรอครับ ^^

 
At 9:12 AM, Blogger eek said...

เข้ามาวนเวียนในความรู้สึกของคนตกหลุมรัก ^O^

ไม่ว่าเวลาจะมีจริงหรือไม่มีจริง
มันจะถูกใครต่อใครเอาไปผูกกับเงื่อนไขใดๆ ก็ตาม
แต่ความเปลี่ยนแปลงมันก็ยังคงอยู่ใช่ไหม
อยากรู้ว่าในหลุมดำ ร่างกายเราจะเหี่ยวลง แก่เฉาไปเช่นนอกหลุมดำหรือเปล่า ดอกกุหลาบจะหยุดการเบ่งบานในหลุมดำไหม

หนังอีกเรื่องที่มันเกี่ยวกับเวลา แต่ไม่ได้เขียนขึ้นโดยตรงถึงทฤษฎีอะไร เรานึกถึงเรื่อง Sliding Door
ถ้านางเอกขึ้นรถไฟทัน เธอจะกลับไปเห็นสามีมีชู้
แต่ถ้าเธอขึ้นรถไฟทัน เธอก็จะไม่รู้อะไรเลย

 
At 11:07 AM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

พี่จอย...
อืม เวลาเรารอคอยอะไรมันมักยาวนานเสมอ
เหมือนไปต่อคิวเข้าห้องน้ำ ขณะท้องไส้ไม่อยากเหลออะไรตกค้างอีกนี่ โหย...สุดทน
แวะมาอีกแล้ว ขอบคุณนะพี่

โต...
เชี่ย มาเขียนก็ดันไม่ลงชื่อไว้
ดีนะที่ข้าพเจ้ามีความสามารถแยกแยะได้
อืม เขียนถึงอารมณ์เก่าๆ นี่เอง
ที่หลุดๆ หมายถึงเนื้อความน่ะ
มันจะคุมไม่ค่อยอยู่มือไง

คุณขาม...
ครับ อยากลืมเรื่องราวในวันเวลาหนึ่ง
แต่ผมก็ยังนึกถึงเรื่องราวในวันเวลาหนึ่งด้วยครับ
อืม มันเป็นหนึ่งเรื่องในชีวิตเราครับ
เมื่อผ่านไปได้ความหมายที่เราประดับให้มันอาจ
ทำให้เราหายใจได้ยาวขึ้นครับ (^^)

อิ๊กเว้ย...
ใครตกหลุมรักกัน ชิ
หลุมแบบฉันต้องใหญ่ๆ หน่อยนะ
เพราะฉันตัวใหญ่เหลือเกิน

อืม ความเปลี่ยนแปลงยังมีอยู่
ในการ์ตูนเรื่องที่ฉันอ่านน่ะ เวลาในหลุมดำยังทำให้สังขารของคนเราแก่ชราอยู่ ไม่ได้หยุดนิ่ง เพียงแต่เดินช้าลงมาก-มากเท่านั้น ดอกกุหลาบ หากยังคงสภาพในช่วงเวลาก่อนถูกบดขยี้ด้วยแรงโน้มถ่วงมหาศาลก็จะบานได้นานกว่าเวลาปกตินอกอาณาเขตแรงโน้มถ่วงนั้น
Sliding Door อืม ใช่ ชีวิตคนเราก็เป็นอย่างนี้นะ
ถ้าไม่มีการตัดสินใจอะไรบางอย่าง อาจไม่เกิดผลอีกด้านตามมา

ถ้าไม่ได้ไปดังกิ้นฯ วันนั้น
วันนี้, โลกของฉันคงยังไม่หมุนด้วยจังหวะแบบนี้

 
At 9:13 AM, Blogger eek said...

"ถ้าไม่ได้ไปดังกิ้นฯ วันนั้น
วันนี้, โลกของฉันคงยังไม่หมุนด้วยจังหวะแบบนี้"

เล่าให้ฟังซะดีๆ พูห์ อย่าให้พิกเลตต้องออกกำลังนะ
เรื่องราวเป็นมาเช่นไร

 
At 10:51 AM, Anonymous Anonymous said...

"Sliding Door อืม ใช่ ชีวิตคนเราก็เป็นอย่างนี้นะ
ถ้าไม่มีการตัดสินใจอะไรบางอย่าง อาจไม่เกิดผลอีกด้านตามมา.."

มัน...จี๊ด..ดส์....เหลือเกิน...


:'(

maeb*

 
At 5:25 PM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

อิ๊ก...
แกจะมาอยากรู้อะไร, พิกเล็ต
ไว้เรื่องราวมันดำเนินไป แกก็จะได้รู้เองล่ะน่า
ไว้ไปเชียงใหม่อีกที (ปีไหนไม่รู้)
อาจได้เล่าให้ฟัง(ว่ะ)

พี่บีม...
อืม...ชั่วจังหวะการรับรู้ในคืนวันนั้น
ทำให้พี่มีความรู้สึกมากมายตามมาจนวันนี้
พี่บีมครับ, ไม่ว่าใครก็คงยากจะฝ่าด่านความรู้สึกไปได้
เมื่อความรู้สึกก่อเกิดใครจะจำกัดจัดการกับมันได้
มันจี๊ดดดส์ใจ...เพราะใจเรายังให้ความหมายกับมัน
และเพราะเช่นนั้นเราจึงยังเป็นมนุษย์ที่มีความกังวลมีความรู้สึกอยู่ สู้ๆ นะพี่ ใครต่อใครในเดอะแก็งส์ยังอยู่ด้วยนะครับ
ป.ล.
เมื่อคืน, พี่บีมเศร้าๆ อ่ะ กอดกับพี่จ๋อยบ้าง กอดกับมิ้นบ้าง ไว้มีวันคืนดีๆ ไปเอามันออกจากข้างในบ้าง แล้วเลือกให้ความหมายกับเรื่องราวนั้นๆ เพราะเราเองเป็นผู้เลือกให้ความหมายต่อสิ่งที่เกิดขึ้นครับพี่ พาผมไปนั่งเงียบๆ ในวงสนทนานั้นก็ได้ครับ ให้รู้ว่า"เราทุกคน"ยังอยู่ด้วยกันอ่ะ (^^)

 
At 4:26 PM, Anonymous Anonymous said...

มะกี้พึ่งโพสตืเพลง one fine day ในบลอกตัวเอง
กลับมาบลอกของยีน มันก็ยังเข้ากับ "เวลา" อยู่เนอะ ^^

มันก็เศร้าอยู่บางทีแหล่ะ แต่ไม่ตลอดไปหรอกน่า
ชาวเดอะแก็งค์จงวางใจ หักดิบไม่ค่อยสำเร็จเท่านั้นเอง...แฮ่ๆๆ

อ้อ! เคยพยายามจะดู butterfly effect อยู่เหมือนกัน แต่ไม่สำเร็จ ต้องลองใหม่นะ (บอกตัวเองน่ะจ้า)


จริงๆ อยากบอกว่า "ขอบคุณนะทุกคน" ตะหาก..แต่เขินๆ นิ :P

ปล. จริงๆ กว่าอะยีน ที่กอดมิ้นกะจ๋อยอะ..แอบเช็ดน้ำลายเพราะหัวเราะน้องอาร์มแล้วน้ำลายกระเด็น...อิอิ
(ไม่ใช่น้ำหมากแน่นอนบอล! อย่าเชียวนะ อย่าพูดออกมาเชียว!)

 
At 6:04 PM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

พี่บีม...

เพลงในบลอกพี่ ไม้เห็นเป็นเพลง one fine day แบบเนื้อหาเลยอ่ะ (^^)ได้ฟังไปด้วยจะดียิ่งครับพี่

อืม หักดิบนี่หน่า มันถึงได้ยากเย็นยิ่งอ่ะพี่
ต้องเชื่ออย่างที่พี่บอลชอบพูดแล้วว่า มนุษย์เกิดมาเพื่อเยียวยากันและกัน...

เรื่อง butterfly effect น่าจะยังไม่เคยดูอ่ะครับ ฮี่ๆ หาหนังที่เคยดูได้น้อยเหลือเกิน

เขิลลลลลลล ด้วย :>

ป.ล.
อืม คืนนั้นพี่บีมโดนน้องอาร์มจีบจริงจังมากเลย ^^ ฮ่าๆๆ แต่น้ำลายขนาดนั้นอ่ะ น่ากลัวอ่ะ... อิอิ

 
At 2:53 PM, Blogger Unknown said...

www0629
cheap jordans
grizzlies jerseys
kappa clothing
longchamp pliage
moncler outlet
dior outlet
a bathing ape
oakley sunglasses
true religion jeans
air max 90








 
At 10:32 AM, Blogger yanmaneee said...

curry 4
fila disruptor 2
balenciaga sneakers
fila disruptor
off white nike
kyrie 5
james harden shoes
michael kors handbags
coach outlet
moncler sale

 

Post a Comment

<< Home