the Fall from anotherside, Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก...

Monday, April 23, 2007

ฤดูร้อน...ในความทรงจำ

แดดระอุ บนพื้นถนน
เหมือนละลายภาพเบื้องหน้าไปทุกขณะ
บางครั้งเมื่อมองออกไปไกลๆ เหมือนมีมิราจเกิดขึ้นทั่วไปหมด

ความทรงจำเกี่ยวกับฤดูร้อนบรรจุเรื่องราวใดไว้บ้างนะ

สำหรับบ้านที่มีโอ่งน้ำหรืออ่างน้ำที่ใช้ตักอาบ
การอาบน้ำในเวลากลางวันเป็นความสุขล้นเหลือ
น้ำที่นิ่งอยู่ในโอ่งตั้งแต่เมื่อคืนยังรักษาอุณหภูมิไว้ได้ดี

ครั้งหนึ่งที่บ้านผมยังใช้ห้องน้ำที่สร้างอยู่นอกบริเวณบ้าน
ผนังห้องน้ำทำจากสังกะสี ที่ก่อโครงไม้ยึดไว้เท่านั้น
รอบๆ ข้างคือ ต้นไม้หลายชนิด ทั้งขนุน ต้นกล้วย
และไม้ในกระถางที่มาวางอิงแอบอาศัยความเย็นของโอ่งน้ำ

โอ่งทำมาจากถังน้ำมันสองร้อยลิตร
พ่อใช้ปูนฉาบผิวด้านในของตัวถังแล้วทำเป็นโอ่งสำหรับใส่น้ำ
ทาสีเขียวอ่อนให้กลมกลืนไปกับสภาพรอบข้าง

ท่ามกลางฤดูร้อนวันนี้
ผมนึกถึงห้องน้ำหลังนั้นขึ้นมา
ท่ามกลางความทรงจำเกี่ยวกับฤดูร้อนนานาประการ
ของมะม่วงสุก คุณย่า ลมร้อน วันหยุด และปิดเทอม

ฤดูร้อนมาพร้อมกับช่วงเวลาของการได้อยู่บ้านในวัยเด็ก
เพราะปิดภาคการศึกษาเพื่อนๆ หลายคนหายไปจากชีวิตของโรงเรียน
เราได้กลับมาอยู่บ้าน และอยู่กลับตัวเองอีกครั้ง...

สมัยเด็กฤดูร้อน
ผมชอบนอนเอาแนบกับพื้นบ้านที่เป็นปูน
บ้านชั้นสองที่สร้างจากไม้ตอนกลางวันจะร้อนมาก
นอนเล่น นอนอ่านหนังสือ ดูทีวีไปอย่างเย็นอุรา
บางครั้งพ่อจะเดินจากครัวมาพร้อมกับยำมะม่วง
ต้นที่ปลูกในบ้าน พ่อฝานเนื้อมะม่วงเปรี้ยวออกเป็นแผ่นบางๆ
สีเขียวอ่อนนั้นซ่อนรสชาติเปรี้ยวจี๊ดไว้ภายใน
พ่อคลุกน้ำตาลและใส่น้ำปลามาเพื่อเพิ่มรสชาติให้มะม่วงจานนั้น
แม่ยกวัตถุดิบอาหารสำหรับมื้อกลางวัน เข้ามานั่งเตรียมในห้องเดียวกัน
เด็ดคะน้าไปก็ดูโทรทัศน์ไป คลุกเส้นก๋วยเตี๋ยวกับน้ำมันไป
ก็สนทนาใต้พัดลมตั้งโต๊ะตัวเดียวกันไป...

มื้อกลางวันก็ได้ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วกระทะใหญ่มากแล้ว

ช่วงเช้าของวันหยุดโทรทัศน์กินเวลาไปเกือบหมด
รายการเด็กๆ การ์ตูน พาเหรดกันเข้ามาทายทัก
โดยเฉพาะเสาร์อาทิตย์เช่นเดียวกับช่วงเปิดเทอม
คลับคล้ายว่าสมัยที่มีโทรทัศน์สีเครื่องแรกของบ้านนั้น
มีเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันจากบ้านข้างๆ มานั่งดูการ์ตูนด้วยกัน

อากาศร้อน ทำให้เหงื่อออกเยอะ
ถ้าเหงื่อไม่ออกสิ เขาว่ากันว่าจะอันตรายเสียกว่า
วิธีการแก้ร้อนด้วยการอาบน้ำ ผมก็จำมาจากพ่อ
บางครั้งเพียงเข้าไปใช้น้ำราดตัวเพื่อคลายร้อนไม่ได้เป็นการอาบน้ำ
แล้วออกจากห้องน้ำมาทาแป้งเย็น
สมัยนั้นที่บ้านจะใช้แป้งตรางู ส่วนพ่อจะใช้ชาวเวอร์ ทู ชาวเวอร์
(ถ้าหากฉันวอนเธอให้อยู่... นานอีกหน่อยเธอค่อยไป...)

ถึงร้อนระอุ ในสมัยนั้นผมก็ชอบฤดูร้อน
การได้ออกไปอายน้ำแล้วมองอะไรเล่นรอบข้างๆ มันก็เพลินดี
กลับมาที่ห้องน้ำที่สร้างอยู่นอกบ้าน
(ที่จริงที่บ้านมีห้องน้ำอีกสองสามห้อง แต่ไม่ค่อยใช้อาบน้ำกัน)
อาศัยร่มของต้นมะม่วง ขนุนคลายร้อนไปได้เยอะ ตอนนั้นมะพร้าว
ก็ยังยืนต้นสูงให้ลูกและร่มจากทางมะพร้าวแก่พื้นที่บริเวณนั้น
เครื่องใช้สำหรับอาบน้ำวางอยู่บนโครงไม้ที่ใช้ยึดสังกะสี
พื้นห้องน้ำใช้ซีเมนต์เทพื้นให้แข็งแรง ทางเดินเข้านั้นใช้เศษไม้
วางต่อๆ กัน ประโยชน์ของห้องน้ำนี้คือการรดน้ำต้นไม้ไปในตัวด้วย

การละเล่นในห้องน้ำมีตั้งแต่การเล่นใช้ขันน้ำ
คว่ำแล้วดักอากาศเพื่อให้เกิดแรงดัน แล้วก็กดขันน้ำลงไป
ฝืนกับอาการพยายามลอยขึ้นมาของขันน้ำ
แล้วก็ค่อยๆ ปล่อยอากาศให้ลอยขึ้นมาเป็นลูกกลม
เพื่อแตกกระจายตัวบนผิวน้ำ บางครั้งก็ปล่อยลอยขึ้นมาทีเดียวทั้งหมด
เกิดเป็นฟองอากาศขนาดใหญ่ สนุกสนานดี

ไม่งั้น ผมก็จะเล่นวาดมือไปในน้ำ
การละเล่นนี้ได้รับอิทธิพลมาจากหนังจีนสมัยนั้น
การได้วาดมือเป็นท่าทางต่างๆ ในน้ำนั้นมันเห็นเป็นภาพดี
แล้วก็เกิดความรู้สึกว่ามีอะไรต้าน และออกมาจากมือด้วย
ความที่สมัยนั้น โอ่งนานจะล้างทำความสะอาดที
ตะกอนต่างๆ ที่มากับน้ำหรือฝุ่นละอองในอากาศที่ตกสู่ผิวน้ำ
ได้ตกตะกอนแล้วนอนก้นอยู่ข้างล่าง
บางครั้งผมก็สนุกกับการรวบรวมพลังแล้วปล่อยคลื่นน้ำ
เพื่อทำให้ตะกอนเหล่านั้นลอยตัวขึ้นมา
(ในหัวนั้น เหมือนว่าผมสามารถปล่อยภายในได้เทียว)
แต่การละเล่นชนิดนี้ ต้องเล่นเป็นลำดับท้ายๆ
เพราะหลังจากนั้นน้ำในโอ่งก็จะขุ่น ตะกอนคละคลุ้งไปทั่ว
เดือดร้อนคนที่จะอาบน้ำคนต่อไปต้องรอให้ตกตะกอน
หรือนำสารส้มมากวนน้ำเสียก่อน

บางครั้งตัวการ์ตูนโปรดๆ ก็ได้โอกาสสัมผัสน้ำด้วย
โลกในจินตนาการพาชีวิตมาให้ตัวการ์ตูนเหล่านั้น
(วันหลังจะเขียนเล่าเรื่องพวกนี้ดีกว่า - แค่วันนี้ก็แตกประเด็นไปเรื่อยแล้ว)
กว่าจะอาบน้ำเสร็จนิ้วมือ นิ้วเท้าก็เปื่อยไปหมดแล้วล่ะครับ

ฤดูร้อนยังทำให้คิดถึงคุณย่าด้วย
สมัยนั้นในขณะที่แม่ขนข้าวของเข้ามาเตรียมครัวในบ้าน
ย่ากลับคลุกอยู่กับครัวหลังบ้าน หน้าเตาถ่าน บางครั้งเพลงจ้อยซอ
ก็ดังขึ้นมาจากวิทุยของย่า สลับไปกับเทผธรรมะจำพวกตายแล้วไปไหนของป้า
อาหารประจำฤดูร้อนของย่าคือ มะม่วงสุกกับข้าวเหนียว บางทีก็ข้าวสวย
สมัยเด็กแปลกใจดีที่ได้เห็นย่ากินข้าวกับมะม่วงสุก หรือแตงโม
โตมาถึงรู้ว่ามันเย็นๆ อร่อยๆ ดีเหมือนกันนะ
เรื่องของกินของคนแก่เนี่ย พ่อพูดเสมอว่าก็คนแก่เขากินมาทุกรสแล้ว
แก่มาจึงชอบกินอะไร เผ็ดๆ ขมๆ หรือบางทีก็อาหารหน้าตาแบบนี้

คิดถึงย่าขึ้นมาซะงั้น...

ลมร้อนมาเยือนบางปีนั้น ผมได้เล่นว่าว
ตรอกซอยแคบของผมนั้นเป็นทั้งที่หัดขี่รถมอเตอร์ไซค์ จักรยาน
และวิ่งว่าว เพื่อให้ลอยสูงขึ้น
บ้านของเพื่อนบ้านมีว่าวตัวใหญ่มากตัวหนึ่ง เขาไว้ใช้แข่ง
ผมหัดทำว่าวก็จากที่บ้านหลังนั้นแหละครับ ใช้กระดาษแก้วแต่งให้สวยงาม
ทำโครงจากไม้ไผ่ แต่ขั้นตอนทำอย่างไรบ้างนั้น
ลืมไปหมดแล้ว รู้สึกเสียดายจริงๆ...

บางครั้งผมก็นิยมลมร้อนที่พัดมาเอื่อยๆ
ยามเมื่อนอนอ่านหนังสือบนแคร่หน้าบ้าน
แสงลอดผ่านใบมะขามลงมา เสียงของสิ่งต่างๆ ยังไม่วุ่นวายนัก
เสียงโทรทัศน์ยังไม่ดังออกมาจากทุกหลังคาเรือนเหมือนสมัยนี้
แมลงกินน้ำหวานบางตัวยังสาละวนกับต้นคุณนายตื่นสาย
แมลงปอวิ่งวนเกาะต้นไม้ใบงามที่จำชื่อไม่ได้
ตามต้นโหระพาบางครั้งก็พบแมลงเต่าทอง
ผมชอบลมร้อนอย่างนั้น เมื่อลมร้อนพัดมา แล้วผมยังอยู่ในร่มไม้
ชีวิตดูไหลเรื่อย เอื่อยและช้า แต่ดำเนินไป

บ่ายๆ ถ้าโชคดี รถไอติมจะผ่านหน้าบ้าน
เสียงกระดิ่ง กริ๊งๆ เป็นเสียงสวรรค์ ผมวิ่งละล้าละลัง
บอกพ่อ หรือแม่ว่าไอติมมา เพื่อขอการอนุมัติสตางค์
บางครั้งต้องรถให้รถไอติมเลยไปก่อนแล้วไปดักรอตอนรถกลับออกมา
เพราะท้ายซอยเป็นซอยตัน...
รถไอติมในสมัยนั้นมีทั้งที่เป็น ไอติมกะทิตักใส่ขนมปัง ใส่โคน
กับไอติมแท่งสเยบด้วยไม้แบนๆ ยี่ห้อกวางทอง
รถไอติมแท่งเนี่ยจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมมีฝาปิดทางด้านบน
ข้างในแบ่งเป็นช่องๆ หากเก่าไปกว่านั้นก็จะเป็นทรงกระบอก
ที่ใช้สะพายหลังเดินขาย ลักษณะเหมือนกระติกด้านนอกหุ้มด้วยหวาย

เวลารถไอติมผ่านมาในฤดูร้อนนั้น จำได้ว่าตลกดีที่
พอผมออกไปยืนรอรถไอติมกลับมาจากท้ายซอย บ้านหลายๆ หลัง
ในซอยจะออกมาวะเง้อดูรถไอติมเช่นเดียวกัน
บางบ้านไม่ทันใจก็เดินตามมาซื้อบริเวณหน้าบ้านผมเลย
(เพราะผมมักจะดักไว้ได้ก่อน) ไอติมแท่งที่ชอบกินในตอนนั้น
ต้องเป็นรสกะทิที่เคลือบด้วยน้ำแข็งสีน้ำตาล ทำให้กรอบนอกนุ่มใน
พอกินส่วนที่กรอบมันไอติมทั้งแท่งก็แทบจะละลายหมดแท่งแล้ว
นอกจากรสที่ว่าแล้วในกระติกไอติมก็จะมี รสกะทิ รสถั่วดำ รสรวมมิตร
รสข้าวโพด รสใบเตย เท่าที่จำได้ก็มีเท่านี้อ่ะ ตกหล่นไปขออภัยด้วย

จบเรื่องราวว่าด้วยความทรงจำเกี่ยวกับฤดูร้อนเท่านี้ดีกว่า
ก่อนที่ทรงจำจะพาทัวร์ไปไกลถึงเรื่องการเดินทางในช่วงปิดเทอม
ห้องสมุดประชาชน และสงกรานต์ต่างถิ่น...ฯลฯ...

เรื่องเหล่านั้นคงได้บันทึกในสักวันแหละน่า ^^

ป.ล.
เขาว่ากันว่า 27 นี้จะร้อนที่สุดอีกแล้ว
เฮ้อ...เดี๋ยวร้อนก็อาบน้ำตอนกลางวันไม่ได้
เพราะอยู่ที่ทำงาน ถึงอยู่หอน้ำที่หอก็ใช้การสูบขึ้นไปไว้บนหลังคา
แล้วปล่อยลงมา อาบตอนเที่ยงเหมือนหมูโดนลวกเตรียมนำไปทำอาหารพิกล ^^

ป.ล.สอง
ภาพถนนคลุ้งฝุ่น แดดระอุ นึกถึง เพลงนี้ขึ้นมาเฉยเลย

5 Comments:

At 6:57 PM, Anonymous Anonymous said...

อืม...ทำให้ฤดูร้อนในความทรงจำผุดขึ้นมาบ้างเป็นฉากฉากเลยเหมือนกัน

และภาพหนึ่งที่จำติดตาเสมอเมื่อถึงฤดูร้อน ก็คือ...

ภาพรถวิ่งไปบนถนน บนหนทางที่มองออกไปไกลไกลเบื้องหน้านั้น เห็นเปลวแดดเต้นเป็นริ้วริ้ว...มันเป็นอย่างนี้เฉพาะหน้าร้อนจริงจริง

ในรถคันนั้น มีพ่อเป็นคนขับ แม่นั่งที่ด้านข้าง
ด้านหลังเป็นลูกชาย 2 และเด็กหญิงอีกหนึ่ง

ทั้งหมดกำลังนั่งรถคันนั้นมุ่งหน้าไปยังพัทยา
เมื่อเดือนเมษาเพิ่งเริ่มต้น--

ฤดูร้อนอันแสนสุขอ่ะ คิดถึงจัง

อ่า...เราเข้ามาบ่นอะไรเนี่ย -_-"

 
At 4:03 AM, Anonymous Anonymous said...

ฤดูร้อนเมื่อตอนประถม
มาพร้อมกับการเดินทางไปอยู่กับยายที่ลำพูน
วันๆ ไม่ค่อยได้ทำอะไร นอกจากปีนต้นลำใยและตั้งแกงค์เล่นสนุกกันในหมู่พี่น้อง

พอโตขึ้นมาหน่อย - ฤดูร้อนตอน ม.ต้น
กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่นเอ๊าะๆ ทีเดียว
ดอกหางนกยูงบานแข่งกันอวดสีส้มสด
และหัวใจเริ่มเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ เพราะแอบชอบใครบางคน

ส่วนฤดูร้อนตอน ม.ปลาย...
จำได้แต่ช่วงเวลาตอนก่อนสอบเอ็นท์
ร้อนรุ่มและเบื่อหน่ายแกมวิตกจริต

...ฤดูร้อนต่อจากนั้น...
มีความทรงจำอีกเยอะเลย
แต่ไม่พูดถึงดีกว่า เดี๋ยวจะยาว

รู้แต่ว่า...ฤดูร้อน ณ ตอนนี้
อากาศอาจจะรุนแรง
แต่ (ใจ)ไม่แห้งแล้งนิ

(หมายถึงเจ้าของบล็อกน่ะแหละ!!)

โฮะๆๆ

 
At 2:12 PM, Blogger eek said...

เราทาแป้งชาวเวอร์ทูชาวเวอร์ ถ้าหากฉันวอนเธอให้อยู่ทุกวันตั้งแต่ปี 2 จนตอนนี้

แต่.... เธอคนที่ฉันวอนก็ไม่เห็นยอมอยู่เลย
ช่างเหอะ ตอนนี้ตัวเราหอมเป็นเอกลักษณ์

 
At 5:30 PM, Anonymous Anonymous said...

พี่จ๋อย...
จริงๆ แล้วหน้าร้อน
นี่มันก็น่าสนใจเหมือนกันนะพี่
ถึงอากาศจะร้อน (มาก)
แต่ดอกไม้ก็บานเยอะเลย

ภาพถนนที่มองออกไปไกลๆ
แล้วเห็นเปลวแดดเต้นเป็นริ้วริ้วน่ะ
มันคุ้นๆ เหมือนกันเลยครับ
เพราะการออกเดินทางไกลๆ กับครอบครัวนั้น
ส่วนใหญ่ก็เกิดขึ้นในฤดูร้อนนี่เอง...

รถคันนั้นที่มุ่งไปพัทยาน่ะ
อ่านตามแล้วอุ่นๆ ยิ้มตามไปด้วยเลยแหละ

อ่า...บ่นตามไปด้วยเลยเนี่ย -_-"

บูมเหวย...
ไหลมาเป็นช็อตๆ เลยนะ
สวนลำไยเราก็เคยไปปีนเล่น
กินลำไยสวนเขาซะจนเป็นร้อนในเลย

ว๊าย! ม.ต้นอินเลิฟซะแล้ว ว๊าย ^^
แต่ม.ปลายของเราสนุกอ่ะ เพราะไม่เคร่งเครียดอะไรมาก เครียดก็มีแต่สนุกมากกว่าอ่ะ

ชริ! ทำมาออกตัวเอี๊ยด
เขียนถึงตัวเองก็ไม่มีใครว่าหรอกน่า
เรื่องหัวใจไม่แห้งแล้งน่ะ
(ใช่ไหม? บี1 บี2)
โฮะๆ

อิ๊ก...
เพลงมันก็บอกแล้วนิ
ว่า...นานอีกหน่อยเธอค่อยไป...
แสดงว่าสุดท้ายก็จะไปอยู่ดีน่ะ
กลิ่นหอมเฉพาะตัว<<< จ้า แม่คนมีความรัก ^^

 
At 6:05 PM, Anonymous Anonymous said...

แก่ แก่ กันหมดแล้วอ่ะ...มีความหลังเยอะแยะไปหมด
รวมทั้งตัวขาพเจ้าด้วย ^^

maeb*

 

Post a Comment

<< Home