the Fall from anotherside, Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก...

Saturday, September 30, 2006

โลกที่ผมไปพบมา...

วันนี้

ออกจากห้องไปตามถนนหนทางในเมืองหลวง
เพื่อซื้อซอฟแวร์เถื่อนที่พันธุ์ทิพย์พลาซ่า
รถเมล์ติดอยู่บนถนนเพชรบุรีพักใหญ่ในเช้าวันเสาร์
เมื่อผ่านจึงทราบว่า เพราะมีรถทัวร์คันหนึ่ง
กำลังพยายามออกจากซอย

เรื่องมันคงมีเท่านั้น หากว่าผมไม่เห็นชื่อบริษัท
แล้วคิดไปไกล... บริษัท "เห็นดี"
แน่นอนในความหมายก็เพื่อพาไปไหนก็ได้เห็นแต่สิ่งดีๆ
(^^)แต่ผมคงคิดอะไรไปไกลเอง และพี่บีมคงเข้าใจ

เมื่อกวาดสายตาไปทางไหนก็มีแต่รถแน่นท้องถนน
ผมมองกลับมาในรถอีกครั้ง หลังจากได้นั่งสักที
พนักด้านหลังของที่นั่งเต็มไปด้วยโฆษณาน้ำผลไม้ยี่ห้อหนึ่ง
ที่มีน้องโฟร์ น้องมด เป็นตัวแทนสินค้า

เรื่องมันคงมีเท่านั้น หากว่าผมไม่เห็นคำโฆษณาบน
พนักด้านหลังของคนขับที่เขียนว่า "ขึ้นมาแล้วอย่าทำหน้าแก่"

เรื่องมันคงมีเท่านั้น หากว่าป้ายที่ติดข้างกระจกบริเวณนั้นไม่เขียนว่า
"ที่นั่งสำรองสำหรับผู้สูงอายุ"
ผมอุทานบางประโยคในหัว....

โลกที่ผมเห็นมา

ผมเดินซื้อแผ่นปลอม ซอฟแวร์ ที่ละเมิดลิขสิทธ์ ทั้งๆ ที่
ไมโครซอฟท์ตรวจมาเจอทางอินเตอร์เน็ตว่าผมใช้ของปลอม
แต่ผมยังตั้งใจเต็มที่ ด้วยเบี้ยในกระเป๋ามันตะโกนอย่างนั้นออกมา
ไม่พลาดครับ ชั่วการเดินไม่ถึงชั่วโมง
มีคนแปลกหน้ามาทักผมถึงสามสี่หน ว่า "โป๊ไหมพี่?"
หน้าตาผมคงหื่นมากไปหน่อย ใครเจอใครก็ทัก
ไม่อยากสบตากับผู้ชายหน้าร้านซอฟแวร์เลย
(ผมก็ว่า ผมแต่งตัวเรียบร้อยไม่โป๊นะ หรือว่าผมจะมีเสน่ห์ดึงดูดบุรุษกัน^^)

ออกจากพันธุ์ทิพย์พร้อมซอฟแวร์สามแผ่น
ตั้งใจจะกลับไปล้างเครื่อง ฟอร์แมท แล้วลงโปรแกรมใหม่
แต่ก็ยังไม่รู้วิธีเลย เดี๋ยวค่อยๆ คลำทางไปล่ะกัน

หน้าป้ายรถเมลล์
เพลงเธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม ของ ทีโบน
กระจายเสียงแตกพร่าออกจากลำโพงของชายคนหนึ่ง
กีต้าร์ไฟฟ้าตัวนั้น เสียงร้องที่ทำเอาผมนิ่งไป

"เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม
ฉันเก็บเอาไว้ให้เธอ
และจะเป็นเช่นนั้นเสมอ
ฮึม ฮือ...
ถนนสายนั้นที่ทอดยาว
มีเรื่องราวของความเป็นจริง
มีเงาไม้เอาไว้ให้พักพิง
มีให้เธอเอาไว้ยามอ่อนล้า
เธอเห็นท้องฟ้า นั่นไหม
เห็นเงาของเมฆหรือเปล่า
ทะเลสีครามที่ทอดยาว
เห็นความรักฉัน ...บ้างไหม"

เรื่องมันคงมีเท่านั้น หากว่าชายคนนั้นไม่ใช่คนตาบอด
"เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม?"
ในอกผมสั่น
เขาคิดและวาดภาพใดกันนะ เมื่อร้องเพลงท่อนนี้ออกมา
ผมเสียอีกที่ไม่เคยได้เงยหน้ามองท้องฟ้าเต็มๆ ตามาเนิ่นนาน
ท้องฟ้าใต้ดวงตาไร้แสงคือภาพชนิดใดกันนะ...

ผมควักเหรียญสิบออกใส่ในกระเป๋าที่วางด้านหน้าของเขา
ก่อนขึ้นรถเมล์และควานหาเงินค่าโดยสารอีกครั้ง

โลกที่ผมไปพบมา
ต่างจากโลกของคุณ-คุณ ไหมครับ?

ป.ล.
วันนี้มีข่าวเรื่องแท็กซี่คันหนึ่ง
พ่นสีด้านข้างตัวถังว่า "ทำลายประชาธิปไตย"
พุ่งเข้าชนรถถังในบริเวณพระบรมรูปฯ
จนกระโปรงหน้ารถพับหักพังอยางผิดรูป
คนขับเจ็บเข้าโรงพยาบาล ทั้งที่จากสภาพอาจจะถึงชีวิต
อะไร? ทำไม? อย่างไร?
นั่นเป็นอีกคำถามในโลกใบเดียวกันของเราครับ ^^

ป.ล.สอง
ผมชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าสีที่พ่นข้างตัวรถแท็กซี่
เขียนว่าอะไรกัน เพราะเมื่อคืนข่าวออกมาว่า
"พลีชีพเพื่อประชา"
แต่...ถึงมันจะเขียนว่าอะไร คำถามเหล่านั้นก็ยังลอยวน
ในโลกใบเดียวกันของเราครับ

18 Comments:

At 9:03 PM, Anonymous Anonymous said...

ยีนเขียนบล๊อกหนนี้ได้ดีมากนะ
มีหลายอารมณ์ทั้งขำ อมยิ้ม ชวนให้นึกคิด

ก็จริงนะ เราว่าโลกนี้มันแปลกๆแฮะ

เราก็อดแปลกใจไม่ได้เหมือนกัน เวลาเจอน้ำมะนาวสังเคราะห์ในชั้นที่ขายเครื่องปรุงที่จะเอามากินกับอาหารทะเล
แต่กลับเจอน้ำยาล้างจานที่มีส่วนผสมของน้ำมะนาวแท้

สมัยเราทำธีสิสทาง กม. ธุรกิจที่เมืองไทย
มีอาจารย์คนนึงมาชวนเราทำธีสิสเรื่องการละเมิดลิขสิทธิในงานเพลง
ตอนแรกเราก็ว่าจะทำเหมือนกัน
ถ้าไม่พอดีวันนั้น..เราไปเดินตรอกข้าวสารแล้วซื้อซีปั๊มมาฟัง
เราเลยพบว่า ไม่ควรทำอะไรที่ขัดแย้งกัน หลอกลวงประชาชนมากเกินไป

จริงๆเรื่องแนวๆนี้มีประเด็นอีกเยอะ
ไว้จะมาโม้ทีหลัง อยากรอฟัง(อ่าน) ว่าสมาชิกของยีนมีว่าไงมั่งก่อนดีก่า

ชมอีกที
บล๊อกตอนนี้เขียนดีจริงๆ

 
At 1:47 AM, Anonymous Anonymous said...

อาทิตย์ที่แล้ว
ผมไปเจอโลกอีกด้าน
ตอนแรกก็กล้าๆ กลัวๆ ไม่มั่นใจในตัวเอง
กลัวว่าผมจะทำไม่ได้
แต่ผมก็ผ่านมันมาได้
และผมก็เจอโลกอีกด้านที่อบอุ่นอย่างเหลือเชื่อ
เหมือนมันเรียกศรัทธาอะไรหลายๆ อย่างกลับคืนมา

^^

 
At 2:55 AM, Anonymous Anonymous said...

ผมชอบนะเวลาพี่ยีนเขียน Blog อย่างนี้
ทั้งอ่านเพลินแล้วก็หยิก ๆ หยอก ๆ
แต่ก็ไม่วายตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว

ปราบดา หยุ่น บอกว่า "โลกไม่ใช่ของเรา" (แต่ผมก็จะไม่คืนให้ใคร เพราะมันไม่ใช่ของใคร)
วง ดอน ผีบิน บอกว่า "โลกมืด" (แต่ผมว่ามันสว่างเกินไปจนแสบตา แถมไอ่ที่สว่างนั่นเป็นแสงปลอม ๆ ที่เราเชื่อว่าเป็นแสงแห่งปัญญาเสียด้วย)
มาโนช พุฒตาล บอกว่า "โลกสมมติ" ("สักวันโลกคงเข้าใจ โลกสมมติไว้ให้คนทำตาม" กำลังฟังเพลงนี้อยู่เลยครับ แหะ-แหะ)

 
At 11:29 AM, Anonymous Anonymous said...

บางทีในโลกใบเดียวกัน ณ เวลาที่ต่างกัน
..เราเป็นในสิ่งที่ต่างกัน

หากเราเป็นน้ำ
บางครั้งเราก็รู้สึกต้อยต่ำเหมือนน้ำสกปรกในแอ่งขังตรงข้างเท้า
แต่บางครั้งก็รู้สึกสวยงามล่องลอยเหมือนหยดน้ำฝนที่กลั่นมาจากท้องฟ้า
ทั้งๆที่น้ำจากแอ่งขังแท้ๆที่ระเหยไปเป็นเม็ดฝน

อืม ไม่มีปัญญาไปซื้อแผ่นผิดลิขสิทธ์โปรแกรมใดๆมาลง
เพราะลงไม่เป็นนั่นเอง ซื้อมาก็ไลฟ์บอย

สมัยนักศึกษาเคยเป็นคนขายเทปผีด้วย ช่วยเพื่อนน้องชายขาย
ตอนนั้นไปเอามาจากฝั่งมาเลย์ รับมา 5 ม้วน 100 ขาย 3 ม้วน 100
กำไรเห็นๆ แต่กำไรส่วนใหญ่ก็เอาไปซื้อเทปถูกลิขสิทธิ์ของศิลปินที่ชื่นชอบ
ยังรู้สึกผิดอยู่จนทุกวันนี้ว่าเป็นคนทำให้เกิดการตกต่ำของวงการเพลงค่ายยักษ์หรือเปล่า
หรือจริงๆมันสมควรแล้วที่ชอบทำเพลงแบบนั้นดีนัก

เคยดู At first sight รึเปล่า ที่พระเอกเป็นคนตาบอด
ฉันชอบหนังเรื่องนั้นมาก ชอบตอนที่เขาบรรยายถึงก้อนเมฆที่เขาเคยเห็นตอนก่อนสามขวบว่า
...ก้อนเมฆเหมือนขนมสายไหม

หรือแม้ว่าเขาไม่เคยเห็นมาเลยชั่วชีวิต
ท้องฟ้าในบทเพลงของวรรธนา คงทำให้เขารู้สึกได้ถึง"ท้องฟ้า"เท่ากับคนตาดีหรือรู้สึกมากไปกว่า

"It is only with the heart that one can see rightly.
What is essential is invisible to the eye."

ในหนังสือเจ้าชายน้อย กล่าวไว้เช่นนั้น

 
At 3:26 PM, Anonymous Anonymous said...

อืม...อืม...อืม...

บนโลกใบเดียวกันนี้ก่อกำเนิดเรื่องราวมากมายนะ
บางเรื่องชวนให้ขบคิด ให้สงสัย ให้ตั้งคำถาม และรวมถึงตั้งแง่ไปกับมันด้วยซ้ำไป
แต่บางเรื่องนั้น...เราก็พร้อมที่จะเข้าอกเข้าใจมันได้ในทันที-เลยทีเดียว

บนโลกใบเดียวกันนั้นมีทั้งคนที่เต็ม ล้น ขาด และพร่อง
นั่นอาจเป็นเพียงแค่ปัจจัยภายนอก
ส่วนปัจจัยภายในนั้นก็อยู่ที่ใครจะสร้างมันขึ้นมา-ยังไง
“ความหมายคนอื่นสร้าง คุณค่าเรากำหนดเอง” ไง ^^

ถ้าหากว่า...ชายผู้ร้องเพลง เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม ที่ยีนไปพบเจอในวันนั้น
เขาไม่สามารถมองเห็นท้องฟ้าในรูปแบบ และความหมายอย่างใครใครได้--มาแต่กำเนิด
อืม...บางทีนะ เขาอาจใช้ชุดความเชื่อที่ว่าไว้ข้างบนนั่นก็เป็นได้

ท้องฟ้าในความหมายของชายคนนั้น--
บางที...เขาอาจรับรู้และเห็น ความสวยงามจาก ‘ดวงตาที่สาม’ ที่ไม่มีในใครใครอีกหลายคนก็เป็นได้

เอ้า...พล่ามเข้าไป
นั่งทำงานไม่ได้พูดจากะใคร อมน้ำลายจนบูดหมดแล้ว
เก็บกดว่ะ!!!

ป.ล. ส่วนเรื่อง เทปผี-ซีดีเถื่อนนั่นพูดอะไรมากไม่ได้นัก แฮะ แฮะ เพราะเมื่อครั้งยังเยาว์ พี่จ๋อยและพี่ชายใช้บริการเทปผี-พีค็อกกัน เติบโตมาก็ยังคงใช้บริการร้านคุณแว่น-จตุจักร เพื่อมาเติมเต็มจริต และความอยากได้ใคร่ดู หนังแปลกแปลกใหม่ใหม่ ที่โรงหนังเมืองไทยใจไม่กว้างมากพอจะสรรมาให้ดูอ่ะนะ

อูยยยย...พูดมากไปแล้วเฟ้ย...

...ไปดีกั่ว ฟิ้วววววววววววววววว...

 
At 7:06 PM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

มิ้ม...
ขอบใจมากจ้า สำหรับคำชม
เรื่องน้ำมะนาวนั่นเราไม่เคยคิดเลย
อืม อืม จริง จริง ด้วยอ่ะ
เราไม่ได้ปฏิเสธแล้วกล่าวว่าคนใช้ของ
ละเมิดลิขสิทธิ์สมควรละอายนะ
เพราะเราก็คือหนึ่งในคนเหล่านั้น
เพียงแต่สนทนากับตัวเอง
ด้วยเรื่องโลกที่ผ่านไปพบมาน่ะ ^^
แล้วก็ ขอบใจอีกทีนะ

คุณขาม...
ไม่รู้เลยว่า
เดือนที่ผ่านมาไปเจอโลกอะไรมาครับ
รู้เลาๆ ว่า ไปต่อสู้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องมาน่ะครับ
ส่วนเรื่องรูเอ็นไฮม์(ใช่ไหมเนี่ย สงสัยเขียนผิด)
นั่น ผมอ่านแล้วไม่รู้เรื่องเลย มาจากการ์ตูนเรื่องไหนครับเนี่ย?
แต่อย่างไรก็ตาม ยินดีกับด้านที่อบอุ่นที่พานพบครับ
แล้วก็ดีใจที่ได้ยินว่ามันเรียกศรัทธาอะไรคืนมา ^^

ต้น...
ขอบใจในคำนิยมนะต้น ^^
อืม เพลงของมาโนช พุฒตาล
ใช่ในอัลบั้มใหม่ไหมอ่ะ
อยากฟังบ้าง? อยากฟังบ้าง?

น้าจูน...
อืม พอเข้าใจเรื่องสถานะของน้ำครับ
ว่าแต่ไลฟ์บอยอ่ะ
ประโยคติดปากบอกอายุเลยนะนั่น
หนังเรื่องที่ว่าจน่าจะเคยดูแล้ว แต่จำอะไรไม่ค่อยได้เลย ใช่ที่ให้รู้จักทะเลจากการไปยืนชายหาดแล้วให้คลื่นกับทรายสัมผัสเท้าป่ะอ่ะ แล้วก็มีพวกสำลี พวกน้ำแข็งแทนสีต่างๆ (ไม่รู้ใช่ไหมอาจจะจำมั่วมาปนกับเรื่องอื่นแฮะ) เอ่อ...ภาษาอังกฤษแปลไม่ออก แต่พอรู้คร่าวๆ จากปากต่อปาก -_-:

พี่จ๋อย...
อืม อืม อืม
ใช่แล้วล่ะ
ความหมานคนอื่นสร้าง คุณค่าเรากำหนดเอง ^^
ผมก็คิดว่าชายคนนั้นมีภาพของท้องฟ้าในมโนสำนึกของเขาเอง (เรียกว่าดวงตาที่สามน่าจะได้^^)
วันนั้น แค่รู้สึกว่าโลกของเราบรรจุเรื่องราวมากมาย
จากเพียงแค่การเดินทางผ่านพบก็เห็นชีวิตเคลื่อนไปมากมาย แล้วเสียงของเขานั้น เป็นการร้องเพื่อขับกล่อมหรือสอบถามความเป็นไปของผมกันแน่นะ อกผมสั่นเพราะเขาชี้ชวนให้ผมดูท้องฟ้าของเขากระมังครับ
ส่วนเรื่องน้ำลายบูด เอ่อ ...มิน่าละ
กลิ่นติดมาทางนี้เลย ^^
เทปพีค้อก และเทปสากลละเมิดลิขสิทธิ์วัยเยาว์ ผมก็เติบโตมาจากที่ทางเหล่านั้นครับ ผมไม่ได้เขียนเรื่องการไปซื้อซีดีเถื่อนเพื่อบอกว่ามันไม่ดีงามหรอกครับ ทุกวันนี้ผมก็ยังดูหนังบางเรื่องที่ไม่สามารถหาดูได้ตามปกติจากหนทางเหล่านั้น โดยเฉพาะจิบลิที่มีในครอบครองนั้น ไม่มีองแท้สักเรื่องเลย และผมก็รักหนังเหล่านั้นด้วยครับ ^^
พอล่ะเขียนยาวเลย เหนื่อย (อายุมากแล้ว แฮ่กๆ)

 
At 7:35 PM, Anonymous Anonymous said...

แฮ่ม!!!

เราก็ไม่ได้ว่าว่ายีนเอาเรื่องเทปผี-ซีดีเถื่อน มาเขียนด้วยน้ำเสียงทำนองติติง-ยอมรับ หรือชื่นชมอะไรอย่างนั้นหรอกนะจ๊า...

ก็...มันเป็นโลกที่ยีนไปพบมาไงล่ะ

ดี-เลว

ถูก-ผิด

ใครเลยจะตัดสินได้ชัดเจนเล่า--

ก็แค่บอกเล่าเรื่องราวสู่กัน-และใจใครก็ใจใครเนอะ^^

 
At 9:22 PM, Blogger AUY ^ ^ said...

กำลังจะเข้ามาชมว่าวันนี้พี่เขียนบล๊อกได้น่ารักจริงๆ
อ่านไป ยิ้มไป
มีคนชมไปซะละ

อิอิ

โลกที่เราพานพบ
ก็ไม่แตกต่างกัน

^^

 
At 11:28 PM, Anonymous Anonymous said...

พอดีไปรับงานนึงเมื่ออาทิตย์ที่แล้วครับ
ทำแค่ 4 วัน แต่ได้อะไรๆ กลับมาเยอะเหลือเกิน ^^

รูเอ็นไฮม์ มาจากเรื่อง Monster ครับ ^0^

 
At 2:35 AM, Anonymous Anonymous said...

เห็นป่ะ มีแต่คนมาชม
หาแนวเขียนแล้วเกิดได้แล้ว
ขยันเขียนเข้า จะได้ออกรวมเล่ม
ช่วยเขียนแทนเราหน่อย

 
At 5:31 PM, Blogger eek said...

ยีน เราฟังเพลงเธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม ทุกวันเลย ช่วงนี้

โลกที่เราไปพบมาใบเดียวกับที่ยีนไปพบมา
โลกที่เรายืนอยู่ใบเดียวกับที่ยีนอยู่เหมือนกัน
แต่เรายีนคนละที่กัน
เพียงองศาที่แตกต่าง

 
At 5:32 PM, Blogger eek said...

ปล.1 เราฟังเพลงๆ เดียวกันบนโลกใบเดียวกัน
ปล.2 เราร้องเพลงๆ เดียวกันมาพร้อมกันตั้งแต่อนุบาล 1 จนชั้น ป.6 "ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย......."

:D

 
At 12:30 PM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

พี่จ๋อย...
จ้า!!!
ถะถะถะ..........ถูกต้องนะครับ!

อุ๋ย...
น่านว่าไปนั่น
โลกที่เราพานพบ
ไม่แตกกันจริงอ่ะ
อย่างน้อยเราก็ไม่ต้อง
ค้างเติ่งในสนามบินหนา ^^
รักษาตัวนะน้อง

คุณขาม...
อืม ครับ
ท่าทางจะเป็นงานที่ช่วยดึงให้อะไร
กลับมาเยอะเลยนะครับ
โอ้...ลืมไปหมดเลยชื่อสถานที่ในมอนสเตอร์เนี่ย
อ่านมาเนิ่นนานแล้ว ^^

มิ้ม...
ไม่มีการเขียนแทนอ่ะ
อยากเขียนต้องเขียนเองอ่ะ
แต่ถ้าเบื่อก็ไม่เขียน ทำให้สบายใจเถอะนะ^^
ชีวิตเป็นสิ่งที่เราเลือกเป็นจ้า...
เขียนก็เพื่อคุยกับตัวเองไปงั้นเองล่ะ
เนอะ!?

อิ๊ก...
อืม ฟังเพลงเก่าบ่งอายุ
บางทีฉันยังไม่แน่ใจเลยว่า
ฉันยืนอยู่บนโลกใบเดียวกับตัวฉันเอง
ในต่างวาระ กาลเวลาอ่ะ
อาจไม่ใช่แค่สองมิติแตกต่าง อาจจมิติที่สามสี่ห้าก็ยังต่างไปอ่ะ ไม่เคยมั่นใจเลยให้ตายสิ ^^
ป.ล.
อย่ามาเนียน บางวันสมัยประถมฯ ฉันก็ไม่ยอมร้องเพลงชาติแ มันเบื่อ หนีไปเป็นสารวัตรนักเรียน ไม่ต้องเข้าแถวดีกว่า

พี่บุญชิตฯ...
เอ่อ..ผมเพิ่งถ่ายรูปตัวเองด้วยกล้องดิจิตอลไปครับ แม้มันจะได้แค่หน้าอันใหญ่โต (^^) แต่ก็ยังถ่ายตัวเองได้ครับ หรือไม่น่าจะใช้สายชัตเตอร์แล้วตั้งกล้องหันมาถ่ายตัวเองได้นะครับ แม้จะไม่ดีอย่างใจ
ส่วนเรื่องช่างตัดผมมีอะไรให้คิดเยอะเลยครับ ^^

 
At 3:49 PM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

โอ้วววววววเย้!!!

ขอโทษครับ เข้าใจผิด ฮ่าๆ
จริงๆ ด้วยมันไม่สามารถถ่ายตัวเองได้

ฮ่าๆๆ (<< หัวเราะแก้เก้อ -_-:)

 
At 8:47 PM, Anonymous Anonymous said...

อ่านแล้วรู้สึกได้เลย ว่าตัวเองไม่ได้มองโลกอย่างที่มันเป็นเนิ่นนานแล้ว ไม่เคยได้ตั้งคำถาม หรือหยุดคิด กับสิ่งที่ข้องใจ เพียงแต่ปล่อยให้มันผ่านไป

อ่านที่พี่ยีนเขียน แล้วก็ยิ้มนะ ผ่อนคลายจากกอง รายงาน ได้เยอะเลย

 
At 8:58 PM, Anonymous Anonymous said...

มีดอกไม้เยอะแยะแล้วพี่ก็เก็บไว้หนหน้าดีกว่านะ ^^
(จะได้ไม่ผลาญทรัพยากรโลกมากไง...)

ว่าแต่ออกชื่อพี่เนี่ยเด๋วจะส่งบิลไปเก็บตังค์ วะ ฮ่ะ ฮ่าๆ
เตรียมตังค์ไว้เลย ไม่ทอนด้วยนะ
(หายไปฝึกโหดมา งุงิ งุงิ)

เราคงได้ยืน (รึนั่งดื่มดีอ่ะ? อิอิ) ตำแหน่งใกล้ๆ กัน
บนโลกใบเดียวกัน ในเร็ววันนะ
(จะบอกตำแหน่งเดียวกัน พี่ก็ต้องแบกยีนอะดิ 555)

เนอะจ๋อยเนอะ :P

m a e b*

 
At 1:48 PM, Anonymous Anonymous said...

มาเนอะ มานะ อ่ะไรอ่าเจ้บีม--

เราไม่ช่วยแบกหรอกนะ ไอ่อ้วน นั่นน่ะ
ไปให้บอลนู่น...แน่ะ

ว่าแต่...เมื่อเช้านั่งรถเมล์ผ่าน เห็นเจ้ารถบัสบริษัท เห็นดี นั่นแล้วอ่ะ

ให้ขันเข(อยู่คนเดียว) ซะนี่กระไร--

กร๊ากกกกกกกกกกก

เห็นดี เห็นดี เห็นดี เอ่อ เห็นงามด้วยดีก่า (ไม่ล่อแหลมดีแฮะ)

 
At 2:42 PM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

แอนเอ๊ย...
ดีใจที่ข้อเขียนเราทำอย่างนั้นได้นะ
แม้เราจะยังวนเวียนว่ายไม่ต่างกันหรอกนะ ^^

พี่บีม...
เมื่อไหร่อ่ะเนี่ย พี่บีมรอนะเนี่ย ^^
พี่จ๋อยเรอะจะมาแบกเราไหว
เพราะเรานะเบาออกขนาดนั้น ^^

พี่จ๋อย...
เอ...มาคิดอีกที
มาแบกผมก็ดีนะพี่จ๋อย เพราะพี่บอลมาแบก
เดี๋ยวผมหักห้ามใจไม่ไหวแย่เลย ^^
โหย...บริษัทเห็นดีไปทั่วเมืองเลยวุ้ย

เอิ๊ก^^

 

Post a Comment

<< Home