the Fall from anotherside, Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก...

Tuesday, July 03, 2007

หนึ่งวัน ใน หนึ่งวัน

สถานที่: ท่าช้าง ศิลปากร
กล้อง: วาสลีน
ฟิล์ม: ขาวดำโฟมา
ภาพ: ลุงเก็บขยะคนเดิมยังอยู่ที่มุมถนนมหาราชเช่นทุกครั้งที่ผ่านไปในยามสุดสัปดาห์ ประทังชีวิตด้วยการขายของเล็กๆ น้อยๆ ที่เก็บมาได้


วันหนึ่งในชีวิตของเราอาจจะได้พบเจอเรื่องราวใดๆ มากมาย บางเรื่องราวซ้ำซากกับเมื่อวาน ผมตื่นนอนมาฟังเสียงกร่นด่าของนักวิจารณ์ข่าวหลากหลายสถานี หลังมื้อเช้าเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน อินเตอร์เน็ตถูกต่อในบางครั้ง โทรทัศน์ดำเนินไปเช่นเดิมทุกวัน รายการผู้หญิงฯ รายการบันเทิง ข่าวเที่ยง

บางครั้งมื้อกลางวันใต้หอพักเป็นที่พึ่ง...
หลังเวลาข้าวเรียงเม็ด ผมนั่งอ่านหนังสือสำหรับวิทยานิพนธ์ต่ออีกสักพัก แล้วเปิดโทรทัศน์อีกครั้งหลังบ่ายสาม ซี่รี่ย์ทำอาหารทางช่องเจ็ด แล้วสนทนากับตัวเอง

เปิดคอมพ์ฯ อีกครั้ง พิมพ์เอกสารที่อาจจะมีประโยชน์บ้างในการทำวิทยานิพนธ์ (หวังว่านะ- -") เข้าอินเตอร์เน็ต เช็คเมลล์ ส่งงานหรืออ่านบล็อก...จวบเย็นดูข่าวเย็นช่องสาม มองหาข้าวเย็นในเวลาไล่เลี่ยกับเปาบุ้นจิ้นมาตัดสินคนร้าย

วันบางวันในช่วงหลังจากหยุดงานประจำ ดำเนินไปเช่นนั้น ก่อนพ้นค่ำจะนอนอ่านหนังสือได้ในบางคืน

วันนี้ผมออกจากห้องไปเวลาเที่ยงวัน เดินตลาดแถวหอพัก ชีวิตหลากหลายยังดำเนินอยู่ที่นั่น หลายคนบ่นถึงการยึดทรัพย์ที่ไม่รู้เงินไปอยู่ที่ใคร คิดถึงหน้าเหลี่ยมผู้จากไปซื้อทีมฟุตบอล บางคนหัวเราะหลีกเลี่ยงบทสนทนาจากแม่ค้าที่ปรุงข้าวให้อยู่ คนขายอาหารเมื่อมื้อเช้า เริ่มเก็บข้าวแกงมัดเป็นถุงๆ แบ่งตั้งไว้ขายเป็นชุด เรื่องราวของงานอาจจใกล้สิ้นสุด พ่อค้าขายปลาเผาเพิ่งเริ่มงาน สำหรับปลาเผาในเวลาเย็น เขาตั้งหน้าตั้งตายัดไส้เครื่องปรุงตามสูตรในตัวปลา แม่ค้ารับซ่อมเสื้อผ้า เดินไปซื้อข้าวมานั่งกิน ร้านขายน้ำมาซื้อสัปปะรดไปปั่นน้ำผลไม้ สุนัขสองสามตัวนอนหลบแดดยามเที่ยง ลูกแมวยังซนและปีนป่ายที่ต่างๆ เช่นเคย ผมพกกล้องออกไปด้วยแต่ไม่ได้บันทึกอะไร ผมเลือกจะบันทึกในด้วยคำบรรยายในหัวมากกว่า

ชีวิตดำเนินไปอย่างนั้น หลายชีวิตขณะที่หายใจเข้า ความทุกข์ของค่าเช่าบ้าน ค่านมลูก ค่าข้าว ค่าใช้จ่ายนานาประการ ตะกายเข้าโพรงจมูกไปสู่ภายในด้วย
หายใจออก นำความสุขในแต่ละวันผ่านพ้นไป เสียงหัวเราะกับรายการโทรทัศน์จางไป

ในหนึ่งวัน หนึ่งวัน หนึ่งวัน ผ่านพ้นไปอีกครั้ง... ใครบางคนบอกว่าชีวิตคนเราก็มีอยู่ไม่เกินสองหมื่นกว่าวัน เมื่อหนึ่งวัน หนึ่งวัน ผ่านไป ไม่ช้าคงเดินทางไปใกล้วันที่สองหมื่นไปทุกที ใครจะอยู่ถึงวันนั้นบ้างก็ไม่รู้สิ...

ในช่วงชีวิตการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนอายุ 20-40 ปี
กว่าจะรู้ด้วยว่าแต่ละวันผ่านพ้น ก็อ้าว เฮ้ย! ครบปีแล้วเหรอว่ะ?
หากจดจำเรื่องราวทุกวันได้ก็คงดี
เพราะอย่างนั้นทำให้ทุกวันเป็นเรื่องน่าจดจำ
ทำให้เต็มที่แล้ว ก็เดินต่อไป
คงดีนะ...



ป.ล.
ก็บ่นกันไปน่ะเนอะ (- -") (^^)


7 Comments:

At 3:28 AM, Anonymous Anonymous said...

เข้ามาฟังลุงยีนบ่นครับ
ชอบจังเวลาอ่านเรื่องชีวิตผู้คนในเมือง ผู้คนที่ไม่อาจเพ้อฝันถึงได้

เป็นผู้คนที่เจ็บปวดเช่นเรา อยู่ใกล้แต่ไม่ชิดเชื้อ
มองเห็น แต่ไม่อาจทำสิ่งใดให้ได้

นอกจากเขียนถึง...

 
At 1:02 AM, Anonymous Anonymous said...

อ่านแล้วอินจัง...
เหมือนผู้ร่วมประสบชะตากรรมเดียวกัน :)

ตอนนี้กำลังอกหักสุดๆ กับธีสีสตัวเอง ทั้งที่ proposal ก็ยังไม่เป็นรูปร่างเลย
ทำก็ไม่รู้นะคะ สิ่งที่สายตาเราเห็น คนอื่นไม่ยักกะมองเห็นเหมือนเรา หรือเพราะเขาสวมแว่นตาคนละแบบ หรือเพราะเราเองสายตาสั้น เอียง บอดสี ฯ

อยากทำให้วันทุกวันเป็นวันที่น่าจดจำจริงๆ ค่ะ
แต่กับบางวัน (เช่นวันนี้)เรากลับอยากลืม ลืม ลืม ว่ามันเคยมีอยู่ในปฏิทิน

ฟังพี่ยีนบ่น หนูเลยบ่นตาม (ฮา)

 
At 10:35 AM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

ต้น...
ใครลุงฟร่ะ!!!
อืม บางทีมันก็แว่บเข้ามาน่ะ
ตอนที่ยืนในตลาดน่ะ ลมพัดมาแล้ว
โลกก็หมุนช้าจนเห็นสิ่งมองผ่านมากขึ้นน่ะ

ขอบใจที่แวะมาเน้อ..

นา...
อืมๆ น่านสิ (Y.Y)
เราน่ะกล้ำกลืนมาจนปีสุดท้ายแล้ว
ถ้าไม่ทำในแล้วก็คงจบ...จบเห่น่ะนะ
เราต่างคนคงสวมแว่นกันคนละแบบ
จริงๆ นั่นแหละเนอะ แต่ที่แน่ๆ เราสายตาทั้งสั้น เอียง แต่ไม่บอดสีจ้า (^^

เราเคยคิดเหมือนกันว่า ถ้าจดจำทุกวันในชีวิตได้ดี
เรื่องราวที่จะให้เรารู้สึกว่าเรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้คงชัดเจน
ผ่านวันแต่ละวัน เราทำเรื่องราวหลากหลายยิ่ง แต่เพียงสองวัน สามวันพ้น เราก็อาจจะหลงลืมแล้วว่า เมื่อสองสามวันก่อนเรายังสามารถยิ้มได้กับลูกแมวที่ปีนเล่นอยู่ริมถนน หัวเราะกับเรื่องงี่เง่าที่เราปลดปลง แต่หลายครั้งในชีวิตนั้นเราหลงลืม และจดจำได้เพียงเรื่องที่ติดค้างในด้านลบเสียมากกว่า

อ้าว! กลายเป็นคนแก่มาบ่นซะงั้น ฮ่าๆๆ

 
At 6:08 PM, Anonymous Anonymous said...

ไม่ได้แวะมาตั้งหลายเดือน ..
ทักทายตามธรรมเนียม สบายดีนะครับ

รู้สึกสบายตากับตัวอักษรของคุณยีนจัง
ถ่ายทอดออกมาจนแทบสัมผัสได้เลย .. ว่างๆเอารูปมาฝากอีกนะครับ

 
At 4:13 PM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

คุณต๊อด...
เย้ๆๆ!!! มาอีกแล้ว ดีใจจัง
ว่าแต่....
ต๊อดไหนครับเนี่ย (- -"
ความจำผมสั้น
ใช่คุณ Totji หรือ Totjiro
หรือเปล่าครับเนี่ย?

ถ้าใช่นี่...ไม่ได้แวะมาเม้นต์
ออกจะนานเกินหลายเดือนนะครับ
(ครั้งล่าสุดที่จำได้นี่พฤษภาปีที่แล้วนะครับ)(^^

อย่างไรก็ตาม ขอบคุณมากครับ
ที่ยังแวะมาอ่านแล้วคุยกัน
ขอบคุณคำนิยมด้วยขอรับ
แวะมาคราวหน้าคุยกันอีกนะครับ (^^

 
At 11:07 AM, Anonymous Anonymous said...

ใช่แล้วครับ .. TotJi เอง
ว่าแต่ผมไม่ได้แวะมาเป็นปีแล้วเหรอเนี่ยะ

โอ้ โน!! ไม่อยากเชื่อ T_T
รู้สึกกันบ้างไหม ว่าเวลามันผ่านไปเร็ว

 
At 5:02 PM, Blogger ไอ้หนวดยีน said...

อ่า...ฮ่าๆๆ (^^
น่านสิครับก็ว่ามันหลายเดือนจริงๆ ด้วย
หลายเดือนจนล่วงปีเลยครับ

ส่วนเรื่องเวลารู้สึกครับว่า
มันผ่านไปรวดเร็วจริงๆ ด้วย
โอ้...โนวววววววว!!!!
ธีซิสล่ะ (- -"

ป.ล.
ว่าแต่ คุณต๊อดไม่ทิ้งที่อยู่
ไว้ให้แวะไปเยี่ยมบ้างเหรอครับ?
อย่างไรก็ตาม แล้วแวะมาคุยกันอีกนะครับ (^^

 

Post a Comment

<< Home